แหล่งที่มา : ADMIN
ย่อสั้น
ลูกระเบิดของกลางอยู่ในสภาพที่ใช้ทำการระเบิดไม่ได้เพราะชนวนถูกทำลายและวัตถุระเบิดที.เอ็น.ที.ที่บรรจุอยู่ภายในถูกสำรอกออกหมดแล้วทั้งตัวเปลือกลูกระเบิดของกลางถูกตัดออกเป็นช่องสี่เหลี่ยมดังนั้นลูกระเบิดของกลางจึงไม่เป็นวัตถุระเบิดเมื่อลูกระเบิดของกลางไม่เป็นวัตถุระเบิดเสียแล้วย่อมไม่เป็นเครื่องกระสุนปืนด้วย. ศาลอุทธรณ์พิพากษาข้อหาพาอาวุธปืนว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯพ.ศ.2490มาตรา8ทวิและ72ทวิและประมวลกฎหมายอาญามาตรา371ซึ่งการกระทำของจำเลยในข้อหานี้เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทโดยมิได้ใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลยนั้นไม่ถูกต้องศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา90.
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ว่า จำเลย กระทำ ความผิด ต่อ กฎหมาย หลาย กรรม ต่าง กันขอ ให้ ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา ที่ แก้ไข แล้ว มาตรา 339, 340 ตรีและ 371 พระราชบัญญัติ อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ที่ แก้ไข แล้ว มาตรา 4(2),7, 8 ทวิ, 55, 72, 72 ทวิ และ 78 ให้ จำเลย คืน หรือ ใช้ เงิน จำนวน 60บาท ให้ แก่ ผู้เสียหาย ริบ อาวุธปืน และ ลูกระเบิด มือ ของกลาง
จำเลย ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 และ 391 ฐาน มี อาวุธปืน และ วัตถุระเบิดไว้ ใน ความ ครอบครอง โดย มิได้ รับ อนุญาต ตาม พระราชบัญญัติ อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4(2), 7, 8 ทวิ, 55, 72, 72 ทวิ และ 78 อัน เป็นความผิด กรรมเดียว ผิด กฎหมาย หลายบท ให้ ลงโทษ บทหนัก ที่สุด ตามมาตรา 55 และ 78 จำคุก ฐาน มี วัตถุระเบิด 6 ปี ฐาน พา อาวุธปืน ไป ในเมือง หมู่บ้าน ซึ่ง เป็น กรรมเดียว ผิดกฎหมาย หลาย บท ให้ ลงโทษ บทหนักที่สุด ตาม พระราชบัญญัติ อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ ให้ จำคุก2 ปี ปรับ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 จำนวน 150 บาท รวม เป็น โทษจำคุก 8 ปี และ ปรับ 150 บาท จำเลย ให้การ รับสารภาพ ชั้นสอบสวน ลดโทษให้ หนึ่ง ใน สาม ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คง จำคุก ไว้ 5 ปี4 เดือน และ ปรับ 100 บาท ริบ อาวุธปืน และ ลูกระเบิด มือ ของกลาง
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิจารณา แล้ว พิพากษา แก้ เป็น ว่า จำเลย มี ความผิด ฐานทำร้าย ร่างกาย ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ปรับ 150 บาท ฐาน มีอาวุธปืน ตาม พระราชบัญญัติ อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7 และ 72 จำคุก1 ปี ฐาน พา อาวุธปืน ตาม พระราชบัญญัติ อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 8ทวิ และ 72 ทวิ และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 จำคุก 1 ปี รวมโทษจำคุก 2 ปี และ ปรับ 150 บาท จำเลย ให้การ รับสารภาพ ชั้น สอบสวนลดโทษ ให้ หนึ่ง ใน สาม ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คง จำคุก 1 ปี4 เดือน และ ปรับ 100 บาท ไม่ ชำระ ค่าปรับ ให้ จัดการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 และ 30 นอกจาก ที่ แก้ คง ให้ เป็น ไป ตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้น
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ที่ โจทก์ ฎีกา ว่า ลูกระเบิด ของกลาง เป็นเครื่องกระสุนปืน นั้น เห็นว่า ลูกระเบิด ของกลาง อยู่ ใน สภาพ ที่ ใช้ทำ การ ระเบิด ไม่ ได้ เพราะ ขบวน ถูก ทำลาย และ วัตถุระเบิดที.เอ็ม.ที. ที่ บรรจุ อยู่ ภายใน ถูก สำรอก ออก หมด แล้ว และ ตัวเปลือก ลูกระเบิด ของกลาง ถูก ตัดออก เป็น ช่อง สี่เหลี่ยม ลูกระเบิดของกลาง ไม่ เป็น วัตถุระเบิด ทั้ง โจทก์ ก็ มิได้ นำสืบ ให้ เห็นหรือ มี พฤติการณ์ แวดล้อม ว่า จำเลย จะ ใช้ ลูกระเบิด ของกลาง ทำ เป็นวัตถุ ระเบิด อีก โดย ทำ การ เปลี่ยน ชนวน ที่ ใช้ การ ได้ ใหม่ นำวัตถุ ระเบิด ที.เอ็น.ที. มา ประจุ ไว้ ให้ เต็ม และ ใช้ โลหะ มา เชื่อมปิด ช่อง สี่เหลี่ยม นั้น เพื่อ จะ ให้ เกิด ระเบิด แล้ว จะ มี อำนาจทำลาย สังหาร ชีวิต มนุษย์ สัตว์ และ ทรัพย์สิน ได้ แต่ ประการ ใดดังนี้ ศาลฎีกา จึง เห็น ว่า เมื่อ ลูกระเบิด ของกลาง ไม่ เป็น วัตถุระเบิด เสียแล้ว ย่อม ไม่ เป็น เครื่องกระสุนปืน ด้วย ฎีกา ของ โจทก์ฟัง ไม่ ขึ้น
แต่ ที่ ศาลอุทธรณ์ พิพากษา แก้ ข้อหา พา อาวุธปืน เป็น ว่า จำเลย มีความผิด ตาม พระราชบัญญัติ อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และ สิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ และ 72 ทวิและ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 โดย มิได้ ใช้ กฎหมาย บท ที่ มี โทษหนัก ที่สุด ลงโทษ แก่ จำเลย นั้น ไม่ ถูกต้อง ศาลฎีกา จึง แก้ เสียให้ ถูกต้อง ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 เพราะ การ กระทำ ของ จำเลยใน ข้อหา นี้ อัน เป็น กรรมเดียว เป็น ความผิด ต่อ กฎหมาย หลาย บท
พิพากษา แก้ เป็น ว่า สำหรับ ข้อหา ความผิด ฐาน พา อาวุธปืน ให้ ลงโทษจำเลย ตาม พระราชบัญญัติ อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และ สิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่งและ 72 ทวิ วรรคสอง ซึ่ง เป็น กฎหมาย ที่ มี โทษ หนัก ที่สุด ลูกระเบิดมือ ของกลาง ไม่ ริบ นอกจาก ที่ แก้ ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษาศาลอุทธรณ์