คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3551/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลแรงงานกลางซึ่งพิจารณาคดีที่ศาลจังหวัดสกลนครมีคำสั่งให้งดสืบพยานและนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 14 เมษายน 2529 จำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การต่อศาลจังหวัดสกลนครเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2529 ศาลจังหวัดสกลนครส่งคำร้องดังกล่าวไปยังศาลแรงงานกลางเพื่อพิจารณาสั่ง ศาลแรงงานกลางได้รับคำร้องเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2529 จึงสั่งว่า ‘ศาลพิพากษาคดีแล้ว รวม’ ดังนี้ คดีไม่มีการชี้สองสถานหรือสืบพยาน แม้ศาลแรงงานกลางจะมีคำสั่งงดสืบพยานและนัดฟังคำพิพากษาแล้วก็ตาม แต่เมื่อศาลแรงงานกลางยังมิได้พิพากษา ย่อมถือว่าอยู่ในระยะเวลาที่จำเลยอาจยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การได้ จึงชอบที่จะได้วินิจฉัยสั่งคำร้องดังกล่าวว่าสมควรอนุญาตให้จำเลยแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การหรือไม่ ศาลแรงงานกลางพิพากษาคดีไปโดยมิได้วินิจฉัยสั่งคำร้องของจำเลย จึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ให้ศาลแรงงานกลางพิจารณาสั่งคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การของจำเลย แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้รับเหมาชั้นต้นได้ว่าจ้างนายบุญชูทาสีอาคารแล้วค้างชำระค่าจ้าง ทำให้นายบุญชูไม่สามารถจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างของนายบุญชู ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าจ้างที่ค้าง
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ใช่ลูกจ้างของจำเลย จำเลยจ่ายค่าจ้างให้นายบุญชูไปแล้ว ชอบที่โจทก์จะไปว่ากล่าวเอากับนายบุญชูเอง ขอให้ยกฟ้อง
วันนัดพิจารณา ศาลแรงงานกลางสอบนายบุญชูได้ความตามฟ้องจึงงดสืบพยาน แล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงินที่ค้างแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๒๙ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้งดสืบพยานและนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๒๙ ต่อมาวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๒๙ จำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การต่อศาลจังหวัดสกลนคร ศาลจังหวัดสกลนครได้มีคำสั่งในวันเดียวกันนั้นเองให้ส่งคำร้องดังกล่าวไปยังศาลแรงงานกลางเพื่อพิจารณาสั่ง ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๒๙ ได้มีการอ่านคำพิพากษาศาลแรงงานกลางตามที่ได้นัดไว้ หลังจากอ่านคำพิพากษาแล้ว ศาลแรงงานกลางจึงได้รับคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยตามที่ศาลจังหวัดสกลนครส่งมาศาลแรงงานกลางจึงมีคำสั่งคำร้องดังกล่าวเมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๒๙ ว่า ‘ศาลพิพากษาคดีแล้ว รวม’ ข้อเท็จจริงได้ความดังกล่าว เห็นว่า คดีนี้ไม่มีการชี้สองสถานหรือสืบพยาน แม้ศาลแรงงานกลางจะมีคำสั่งงดสืบพยานและนัดฟังคำพิพากษาแล้วก็ตาม แต่เมื่อศาลแรงงานกลางยังมิได้พิพากษา ย่อมถือว่าอยู่ในระยะเวลาที่จำเลยอาจยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การได้ จึงชอบที่ศาลจะได้วินิจฉัยสั่งคำร้องดังกล่าวว่าสมควรอนุญาตให้จำเลยแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การหรือไม่ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การต่อศาลก่อนอ่านคำพิพากษา และศาลแรงงานกลางได้พิพากษาคดีไปโดยยังมิได้วินิจฉัยสั่งคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยตามนัยดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ดังนี้ จึงยังไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
พิพากษายกคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ให้ศาลแรงงานกลางพิจารณาสั่งคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การของจำเลย แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share