คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้วันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำให้การได้คือวันที่ 29 มิถุนายน 2518 (ตรงกับวันอาทิตย์หยุดราชการ) แต่เมื่อศาลอนุญาตให้ขยายระยะเวลา 5 วันโดยมิได้ระบุว่านับแต่วันใด จึงต้องนับต่อจากวันสุดท้ายแห่งระยะเวลาเดิม โดยไม่คำนึงว่าวันสุดท้ายแห่งกำหนดเวลาเดิมจะเป็นวันหยุดราชการหรือไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยผู้เช่าและบริวารออกไปจากบ้านของโจทก์
จำเลยได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องในวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๑๘ วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๑๘ จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การอีก ๑๐ วัน ศาลชั้นต้นให้ขยายเพียง ๕ วัน วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๑๘ จำเลยนำคำให้การไปยื่น ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยยื่นคำให้การเกินกำหนดเวลา ไม่รับคำให้การ
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยรับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๑๘ ตามหมายเรียกให้จำเลยทำคำให้การแก้คดียื่นภายใน ๘ วัน วันสุดท้ายที่จำเลยมีสิทธิยื่นคำให้การได้คือวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๑๘ เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นคำให้การได้ ๕ วัน โดยมิได้ระบุว่านับแต่วันใด จึงต้องนับต่อจากวันสุดท้ายแห่งระยะเวลาเดิมคือเริ่มนับ ๑ ตั้งแต่วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๑๘ จำเลยจะยื่นคำให้การได้ภายในวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๑๘ เป็นที่สุด แต่จำเลยได้ยื่นคำให้การในวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๑๘ ล่วงพ้นกำหนดไป ๓ วัน ที่จำเลยฎีกาว่าวันครบกำหนดยื่นคำให้การคือวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๑๘ (ตรงกับวันอาทิตย์) เป็นวันหยุดราชการ จำเลยมีสิทธิยื่นคำให้การในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๑๘ เป็นวันสุดท้าย เมื่อขยายระยะได้อีก ๕ วันก็ต้องนับเอาวันซึ่งต่อจากวันสุดท้ายแห่งระยะเวลาเดิม คือนับวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๑๘ ซึ่งจะครบกำหนดยื่นคำให้การในวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๑๘ เป็นวันสุดท้ายที่จำเลยจะยื่นคำให้การ แต่วันที่ ๕ และวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๑๘ (ตรงกับวันเสาร์และวันอาทิตย์) เป็นวันหยุดราชการ จำเลยจึงยื่นคำให้การได้ในวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๑๘ ซึ่งเป็นวันที่เริ่มทำงานใหม่ไม่เกินกำหนดระยะเวลาที่จำเลยจะยื่นคำให้การได้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งขยายระยะเวลายื่นคำให้การ จำเลยมีสิทธิยื่นคำให้การในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๑๘ เป็นวันสุดท้ายได้ เพราะประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๑ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒ บัญญัติไว้ว่าให้กระทำได้ แต่ภายหลังจากที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ขยายระหว่างเวลายื่นคำให้การแล้วต้องบังคับตามบทบัญญัติมาตรา ๑๖๐ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ศาลฎีกาเห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ที่ว่ากำหนดระยะเวลาเดิมกับระยะเวลาที่ขยายออกไปต้องนับติดต่อกันไปโดยไม่คำนึงว่าวันสุดท้ายแห่งกำหนดเวลาเดิมจะเป็นวันหยุดราชการหรือไม่ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share