คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทนายจำเลยยื่นฎีกาในวันสุดท้ายก่อนสิ้นระยะเวลาที่กำหนดให้ยื่นฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมศาลภายใน 7 วัน โดยอ้างเหตุว่าจำเลยไม่นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมามอบให้ทนายจำเลย เนื่องจากจำเลยอยู่บ้านนอกไม่ได้มาติดต่อกับทนายจำเลยและไม่ทราบว่าจำเลยจะได้รับจดหมายที่ทนายจำเลยให้ผู้มีชื่อเขียนบอกจำเลยให้นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมามอบให้ทนายจำเลยแล้วหรือไม่ ดังนี้ คำร้องของทนายจำเลยดังกล่าว ยังถือไม่ได้ว่าเป็นเพราะมีพฤติการณ์พิเศษอันศาลจะพึงขยายระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมศาลให้จำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องจากศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำเลยแพ้คดี

จำเลยฎีกาโดยทนายจำเลยเป็นผู้ยื่นและลงชื่อในฎีกา แต่มิได้เสียค่าธรรมเนียมศาลและทนายจำเลยยื่นคำร้องว่าจำเลยไม่ได้นำค่าธรรมเนียมมามอบให้ทนายจำเลย เนื่องจากจำเลยไม่เคยมาติดต่อกับทนายจำเลย ทนายจำเลยได้ให้ผู้มีชื่อเขียนจดหมายบอกไปแล้วแต่จำเลยจะทราบหรือไม่ไม่ทราบ จึงขอขยายเวลาชำระค่าธรรมเนียมศาลภายใน 7 วัน หากครบกำหนดจำเลยไม่นำเงินมาเสียค่าธรรมเนียมศาลให้ถือว่าจำเลยไม่ติดใจฎีกา

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ไม่มีพฤติการณ์พิเศษที่จะสั่งขยายระยะเวลาในการเสียค่าธรรมเนียมในการยื่นฎีกาได้ ให้ยกคำร้อง

จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้แม้ทนายจำเลยจะมีคำขอโดยทำเป็นคำร้องขอขยายระยะเวลาชำระเงินค่าธรรมเนียมศาลก่อนที่จะสิ้นระยะเวลาที่กำหนดให้คู่ความยื่นฎีกาก็ตาม แต่การที่ไม่อาจชำระค่าธรรมเนียมศาลในการยื่นฎีกา เพราะเหตุที่จำเลยไม่นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมามอบให้ทนายจำเลย เนื่องจากจำเลยอยู่บ้านนอกไม่ได้มาติดต่อกับทนายจำเลย และไม่ทราบว่าจำเลยจะได้รับจดหมายที่ทนายจำเลยให้ผู้มีชื่อเขียนบอกจำเลยให้นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมามอบให้ทนายจำเลยแล้วหรือไม่รวมทั้งตัวจำเลยไม่ได้มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยที่ทราบวันนัดแล้ว เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นเพราะมีพฤติการณ์พิเศษ อันศาลจะพึงขยายระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมศาลให้จำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ที่ศาลล่างทั้งสองให้ยกคำร้องของจำเลย ชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share