แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การฟ้องคดีขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าที่ปฏิเสธไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ายืนตามคำสั่งของนายทะเบียน การใช้สิทธิทางศาล ในกรณี เช่นนี้ ไม่มีบทบัญญัติใดในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 หรือในกฎหมายอื่นใด บัญญัติให้โจทก์ต้องใช้สิทธิทางศาลหรือฟ้องคดีภายใน 90 วัน นับแต่วันทราบคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า ดังนั้นโจทก์ย่อมมีสิทธิยื่นฟ้องภายหลังกำหนดดังกล่าวได้โดยไม่จำเป็นต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลขยายกำหนดระยะเวลาให้แต่อย่างใด
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “กลุ่มสี่ประดิษฐ์”ในประเทศไทยต่อจำเลยที่ 1 แต่นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าปฏิเสธไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ โจทก์อุทธรณ์คำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าพิจารณาแล้วมีคำวินิจฉัยยืนตามคำสั่งของนายทะเบียนที่ปฏิเสธไม่ยอมรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ โดยแจ้งคำวินิจฉัยให้โจทก์ทราบเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2544 โจทก์ยื่นคำฟ้องฉบับลงวันที่ 12 กันยายน 2544 ขอให้เพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า กับให้นายทะเบียนเครื่องหมายการค้ารับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “กลุ่มสี่ประดิษฐ์” ของโจทก์แต่เจ้าหน้าที่รับฟ้องปฏิเสธไม่ยอมรับคำฟ้องของโจทก์โดยอ้างว่าหมดเวลาราชการแล้ว
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง มีคำสั่งให้งดการไต่สวน และยกคำร้องของโจทก์ และสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง วินิจฉัยว่า แม้คำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าที่ปฏิเสธไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ยืนตามคำสั่งของนายทะเบียนจะเป็นที่สุดตามมาตรา 18วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 แต่โจทก์ก็มีสิทธินำคดีมาฟ้องต่อศาลเพื่อขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยนั้นได้ และการใช้สิทธิทางศาลในกรณี เช่นนี้ไม่มีบทบัญญัติใดในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 หรือในกฎหมายอื่นใด บัญญัติให้โจทก์ต้องใช้สิทธิทางศาลหรือฟ้องคดีภายใน 90 วัน นับแต่วันทราบคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า ดังนั้น โจทก์ย่อมมีสิทธิยื่นฟ้องคดีนี้ในวันที่ 13 กันยายน 2544 หรือวันใดวันหนึ่งหลังจากวันที่ 12 กันยายน 2544 ก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลขยายกำหนดระยะเวลายื่นคำฟ้องแต่อย่างใด ดังนั้น การที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งว่า โจทก์ยื่นคำฟ้องในวันที่ 12กันยายน 2544 เมื่อพ้นเวลาราชการจึงไม่อาจมีคำสั่งให้รับคำฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาได้นั้น จึงชอบแล้ว ศาลฎีกาแผนกทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเห็นพ้องด้วย เมื่อคำฟ้องของโจทก์คดีนี้อาจยื่นในวันที่ 13 กันยายน 2544 หรือวันถัดไปวันใดวันหนึ่งก็ได้ดังที่ได้วินิจฉัยมาแล้ว ทั้งโจทก์ก็ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งรับคำฟ้องของโจทก์ในวันที่ 13 กันยายน 2544 แม้คำฟ้องของโจทก์จะลงวันที่ 12 กันยายน 2544ก็ต้องถือว่า โจทก์ยื่นคำฟ้องต่อศาลในวันที่ 13 กันยายน 2544 ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางจึงชอบที่จะมีคำสั่ง รับคำฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์ที่ได้ยื่นในวันที่ 13 กันยายน 2544 จึงไม่ชอบ
พิพากษายกคำสั่งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางที่ไม่รับคำฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา แล้วให้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิจารณาสั่งคำฟ้องของโจทก์ใหม่ ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ