คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2688/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หนังสือแสดงการจดทะเบียนรถ ตาม พ.ร.บ. การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 อันเป็นเอกสารราชการระบุว่า จำเลยเป็นผู้ประกอบการขนส่ง ส่วนผู้ถือกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์โดยโจทก์เป็นผู้เช่าซื้อ ทั้งสัญญาเดินรถเข้าร่วมกิจการของโจทก์และจำเลยก็ระบุให้จำเลยมีอำนาจบอกเลิกสัญญาหรือถอนรถออกจากการเป็นรถร่วมได้ทันที การที่โจทก์ได้รับแผ่นป้ายทะเบียนรถมาโดยผลจากการทำสัญญาเดินรถเข้าร่วมกิจการในเส้นทางสัมปทานของจำเลย เมื่อจำเลยใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเดินรถเข้าร่วมกิจการกับโจทก์แล้วพอถือได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งจะเลิกใช้รถยนต์โดยสารแล้ว จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องแจ้งให้นายทะเบียนประจำจังหวัดทราบและต้องนำแผ่นป้ายทะเบียนรถดังกล่าวคืนแก่นายทะเบียนตามมาตรา 79 แห่ง พ.ร.บ. การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มิฉะนั้นจำเลยจะมีความผิดและต้องรับโทษทางอาญาตาม มาตรา 143 โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิยึดแผ่นป้ายทะเบียนรถนั้นไว้ และต้องส่งคืนให้แก่จำเลยเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยยอมให้โจทก์นำรถยนต์โดยสารหมายเลขทะเบียน ๒๐ – ๐๕๑๙ สมุทรปราการ เข้าเดินรถรับส่งผู้โดยสารตามปกติ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายจำนวน ๑๖๘,๐๐๐ บาท และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับชำระค่าเสียหายวันละ ๗๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะยอมให้โจทก์นำรถยนต์โดยสารเข้าร่วมเดินรถ
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้องและฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์ชำระเงินจำนวน ๒๐๙,๓๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย อัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จนกว่าจะชำระเสร็จแก่จำเลย กับให้ชดใช้ค่าเสียหายให้จำเลยเดือนละ ๑๘,๒๐๐ บาท จนกว่าโจทก์จะนำแผ่นป้ายทะเบียน ๒๐ – ๐๕๑๙ สมุทรปราการ มาคืนจำเลย หากไม่นำมาคืนขอให้ถือเอาคำพิพากษาของศาล แทนการแสดงเจตนาของโจทก์
โจทก์ให้การ ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้โจทก์คืนแผ่นป้ายทะเบียน ๒๐ – ๐๕๑๙ สมุทรปราการ ให้จำเลย คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ยกฟ้องโจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่า หนังสือแสดงการจดทะเบียนรถตาม พ.ร.บ. การขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ เป็นเอกสารราชการ ซึ่งระบุว่าจำเลยเป็นผู้ประกอบการขนส่ง ส่วนผู้ถือกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์โดยโจทก์เป็นผู้เช่าซื้อ ประกอบกับสัญญาเดินรถเข้าร่วมกิจการของโจทก์และจำเลย ซึ่งระบุให้จำเลยมีอำนาจบอกเลิกสัญญาหรือถอนรถออกจากการเป็นรถร่วมได้ทันที จะเห็นได้ชัดว่าโจทก์ได้รับแผ่นป้ายทะเบียนรถดังกล่าวมาโดยผล จากการทำสัญญาเดินรถเข้าร่วมกิจการในเส้นทางสัมปทานของจำเลย เมื่อจำเลยใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเดินรถเข้าร่วมกิจการกับโจทก์โดยชอบแล้ว พอถือได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งจะเลิกใช้รถยนต์โดยสาร คันดังกล่าวแล้ว จำเลยมีหน้าที่ต้องแจ้งให้นายทะเบียนประจำจังหวัดสมุทรปราการทราบ และต้องนำแผ่นป้าย เลขทะเบียนรถดังกล่าวคืนแก่นายทะเบียนตามมาตรา ๗๙ แห่ง พ.ร.บ. การขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มิฉะนั้นจำเลยจะมีความผิดและต้องรับโทษทางอาญา ตามมาตรา ๑๔๓ แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิยึดถือแผ่นป้าย เลขทะเบียนรถนั้นไว้ต่อไป จำต้องส่งคืนให้แก่จำเลยเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นนั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน .

Share