คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3535/2548

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลอุทธรณ์จดรายงานกระบวนพิจารณาให้ศาลชั้นต้นเรียกเก็บค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์จากโจทก์ก่อนอ่าน คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลบางส่วน โจทก์จึงยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องอุทธรณ์ลดจำนวนทุนทรัพย์ในชั้นอุทธรณ์ โดยศาลชั้นต้น ยังไม่ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องอุทธรณ์ ดังนี้ เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์จะฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226 ประกอบมาตรา 246 และ 247 แม้ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์มาก็เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 โอนทรัพย์สินตามคำฟ้องคืนกองมรดกเพียงบางส่วนและยกฟ้องจำเลยที่ 2 โจทก์และจำเลยที่ 1 ต่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ทำคำพิพากษาส่งไปยังศาลชั้นต้นแล้ว พร้อมกับ จดรายงานกระบวนพิจารณาไปด้วยว่าคดีนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ โจทก์และจำเลยที่ 1 ต่างชำระค่าขึ้นศาลอย่างคดีไม่มี ทุนทรัพย์เป็นการไม่ถูกต้อง ฉะนั้น ก่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟัง ให้ศาลชั้นต้นตีราคาที่ดินพร้อม สิ่งปลูกสร้างทั้งสองแปลงรวมกับเงินฝากธนาคารที่พิพาทแล้วกำหนดเป็นทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นอุทธรณ์ของ แต่ละฝ่ายให้โจทก์และจำเลยที่ 1 ชำระค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ที่ยังขาดอยู่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาล ในชั้นอุทธรณ์อย่างสูง จึงให้โจทก์และจำเลยที่ 1 ชำระค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ รวมทั้งค่าขึ้นศาลในอนาคตของโจทก์ ที่ยังขาดอยู่ให้ครบถ้วนภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2544 และเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ต่อมาจำเลยที่ 1 นำเงินค่าขึ้นศาลมาชำระเพิ่มเติม ส่วนโจทก์ยื่นคำร้องขออุทธรณ์คดีอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา โดยได้รับยกเว้นค่าขึ้นศาลกึ่งหนึ่ง ให้โจทก์วางเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์จำนวน 100,000 บาท ภายใน 30 วัน
โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องอุทธรณ์บางส่วน ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์สั่ง
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า ศาลอุทธรณ์ได้ทำคำพิพากษาและส่งไปศาลชั้นต้นจนศาลชั้นต้นนัดอ่านคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์แล้ว โจทก์จึงขออุทธรณ์บางส่วน ประกอบกับจำเลยทั้งสองคัดค้าน จึงไม่อนุญาต ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นยังไม่ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีจึงยังคงอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์จะฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องอุทธรณ์ โดยขอลดจำนวน ทุนทรัพย์ที่เรียกร้องในชั้นอุทธรณ์ก่อนศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ได้เพราะเป็นคำสั่งในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226 ประกอบ 246, 247 แม้ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์มาก็เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกา ไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาของโจทก์ ให้คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดในชั้นฎีกาแก่โจทก์ ค่าทนายความชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share