คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 353/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ยื้อแย่งหนังสือส่งหมายนัดเรียกพะยานของกรมการอำเภอจากผู้อื่นไป โดยเจตนาจะดูวันนัดพะยานในหมายนั้น แล้วกลับไปทำหายเสียดังนี้ มีผิดฐานลักทรัพย์ หมายนัดเรียกพยานของกรมการเป็นหนังสือราชการไม่ใช่หนังสือสำคัญ แย่งเอาหนังสือส่งหมายนัดเรียกพะยานของกรมการอำเภอไปแล้วทำหายเสียดังนี้ยังไม่มีผิดตาม ม.228 แล 325

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยยื้อแย่งหนังสือส่งหมายนัดเรียกพยานของคณะกรมการอำเภอจาก ข.ไป ๔ ฉบับ ซึ่งทางราชการได้มอบให้ไปส่งแก่ผู้มีชื่อ โดยจำเลยประสงค์จะดูวันนัดพยานในหมายนั้น แล้วจำเลยซ่อนหนังสือนั้นไว้ในพกโดยตั้งใจจะคืนให้แก่ ข.แต่หนังสือนั้นได้หายไปเสียก่อน ดังนี้ โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๒๙๔-๒๒๘-๓๒๕
ศาลล่างทั้ง ๒ เห็นว่า จำเลยไม่มีเจตนาจะลักซ่อนเร้น หรือทำลายจึงพิพากษาให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่าหนังสือรายพิพาทนี้ไม่ใช่หนังสือพินัยกรรม์หรือหนังสือสำคัญ จำเลยจึงไม่มีผิดตาม ม.๒๒๘ แลจำเลยก็มิได้ทำอันตรายหรือทำ-ให้หนังสือนั้นชำรุด การกระทำของจำเลยจึงยังไม่เข้า ม.๓๒๕
ส่วนข้อที่ว่าจำเลยจะมีผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่นั้น เห็นว่าเกณฑ์แห่งความผิดฐานลักทรัพย์มีว่า (๑) เอาทรัพย์ของผู้อื่นไป (๒) โดยการทุจจริต (๓) เจ้าของมิได้อนุญาต เป็นว่าการกระทำของจำเลยเข้าเกณฑ์แห่งองค์ที่ (๑) แล (๓) ส่วนจะเป็นการทุจจริตตามกฎหมายหรือไม่ เห็นว่าตาม ม.๖ (๓) การท่ำเลยแย่งหนังสือแลมอบหมายพยาน มาดูก็เพื่อประโยชน์ที่จะทราบวันนัดแลเป็นประโยชน์อันไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยที่จำเลยไม่มีสิทธิตามกฎหมายที่จะได้ประโยชน์นี้โดยการยื้อแย่งหนังสือซึ่งอยู่ในความยึดถือของผู้อื่นและความเสียหายก็ได้เกิดมีขึ้นโดยการแย่งเอาไป อีกทั้งหนังสือแลหมายพยานก็ได้หายไป จึงเป็นการทุจริตตามมาตรา ๒-๓ ฉะนั้นเมื่อผู้ร้องกับจำเลยประพฤติต่อกันฉันท์สามีภริยาตามกฎหมายลักษณผัวเมียแล้ว ก็ได้ชื่อว่าเป็นสามีภริยากันชอบด้วยกฎหมาย จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง

Share