แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ค่ารถบริการรับส่งที่นายจ้างทดรองจ่ายไปก่อนแทนลูกจ้างแล้วนำมาหักกับค่าจ้างของลูกจ้างตามที่ตกลงกัน เงินที่หักก้เป็นจำนวนอันสมควรที่นายจ้างได้จ่ายไปตามความเป็นจริง ถือได้ว่าเงินที่หักนั้นเป็นหนี้อันเกิดแต่การทำงาน มิใช่หนี้อื่นตามความหมายของประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ฯ ข้อ 30
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลยตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๘ ได้ค่าจ้างอัตราสุดท้ายวันละ ๕๒ บาท จำเลยจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าจ้างตามที่กฎหมายกำหนดย้อนหลังไปสองปี เป็นเงิน ๑๒,๗๑๘ บาทแก่โจทก์ จำเลยให้การว่า จำเลยจ่ายค่าจ้างให้โจทก์เกินกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด แต่โจทก์ตกลงกับจำเลยเมื่อแรกสมัครงาน ให้จำเลยหักค่าจ้างเป็นค่ารถรับส่งวันละ ๒๓ บาท โจทก์จึงมิได้รับค่าจ้างเต็มจำนวน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ค่ารถบริการรับส่งมีลักษณะเป็นทำนองจำเลยให้สวัสดิการแก่โจทก์ในการเดินทางไป – กลับ สำหรับการทำงานโดยจำเลยทดรองจ่ายไปก่อนแล้วนำมาหักเอาจากค่าจ้างของโจทก์ตามที่ตกลงกัน ค่ารถบริการรับส่งดังกล่าวก็เป็นจำนวนอันสมควรที่นายจ้างได้จ่ายไปตามความเป็นจริง ถือได้ว่าเงินที่หักนั้นเป็นหนี้อันเกิดแต่การทำงาน มิใช่หนี้อื่นตามความหมายของประกาศกระทรวงมหาดไทย ฯ ข้อ ๓๐
พิพากษายืน