คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3518/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญากรมธรรม์ประกันภัยระบุไว้ชัดเจนว่า จำเลยจะต้องรับผิดในทรัพย์สินที่เอาประกันภัยต้องสูญเสียหรือเสียหายไปเฉพาะ”เนื่องจากเพลิงไหม้หรือฟ้าผ่า หรือการระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น” เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า ทรัพย์ที่โจทก์ได้เอาประกันภัยไว้ต้องสูญเสียหรือเสียหายเนื่องมาจากการระเบิดของแก๊สที่ใช้จุดสำหรับหุงต้มอาหารเพื่อจำหน่ายที่ภัตตาคาร ช. ซึ่งอยู่ติดกับสำนักงานของโจทก์ จึงมิใช่การระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัย การสูญเสียหรือเสียหายของทรัพย์สินโจทก์ดังกล่าวจึงไม่อยู่ในความคุ้มครอง ทั้งยังเข้าข้อยกเว้นความรับผิดที่กำหนดไว้ว่าการประกันภัยรายนี้ไม่คุ้มครองการสูญเสียหรือการเสียหายอันเกิดจากหรือเนื่องมาจากการระเบิดทุกชนิดรวมทั้งการระเบิดของแก๊สที่ใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือการผลิตจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว.
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2532)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้นำทรัพย์สินของโจทก์เอาประกันวินาศภัยไว้กับจำเลยในวงเงิน ๕,๐๐๐.๐๐๐ บาท โดยมีธนาคารกวางตุ้งเป็นผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๒๖ บริษัทชัยเฮาส์ (๑๙๘๐) จำกัดได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ ใช้หัวแก๊ส หรือสายท่อแก๊ส ถังแก๊ส และแก๊ส จุดหุงต้มอาหารเพื่อจำหน่ายในกิจการของบริษัทโดยประมาทเลินเล่อ โดยเปิดแก๊สทิ้งไว้เป็นเหตุให้เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้อาคารของโจทก์ซึ่งอยู่ติดต่อกับบริษัทดังกล่าวตลอดจนทรัพย์สินต่าง ๆ ได้รับความเสียหาย โจทก์ได้รับความเสียหายเป็นเงิน ๒,๕๓๓,๘๘๘.๕๕ บาท ขอให้จำเลยชดใช้เงินดังกล่าวให้โจทก์ในฐานะผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องจากธนาคารกวางตุ้ง พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ของเงินดังกล่าว นับตั้งแต่วันที่ ๕ เมษายน ๒๕๒๖ จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า สัญญาประกันภัยระหว่างโจทก์จำเลยให้ความคุ้มครองการสูญเสียและการเสียหายเนื่องจากเพลิงไหม้หรือฟ้าผ่าทรัพย์สินที่เอาประกันซึ่งกรมธรรม์ได้ระบุไว้ชัดแจ้งว่า “กรมธรรม์ประกันอัคคีภัย” และได้ระบุไว้ชัดแจ้งว่า “บริษัทตกลงสัญญากับผู้เอาประกันภัยว่า ถ้าทรัพย์สินที่เอาประกันภัยดังกล่าวหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของทรัพย์สินที่เอาประกันภัยนี้ต้องสูญเสียหรือเสียหายเนื่องจากเพลิงไหม้หรือฟ้าผ่า หรือการระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น” เหตุแห่งการก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของโจทก์มิได้เกิดจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า หรือ การระเบิดของแก๊สที่สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัย จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย นอกจากนี้การสูญเสียหรือการเสียหายของทรัพย์สินของโจทก์ยังอยู่ในข้อยกเว้นตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัยข้อ ๒.๕ ที่จำเลยจะไม่ต้องรับผิดด้วย ขอให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน ๒,๐๗๒,๓๘๘.๑๐ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยในชั้นนี้ตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยจะต้องรับผิดตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัยหรือไม่ และโจทก์เสียหายหรือไม่เพียงใด
ในปัญหาประการแรกที่ว่า จำเลยจะต้องรับผิดตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัยหรือไม่นั้น เกี่ยวกับปัญหานี้ จำเลยให้การต่อสู้ว่า สัญญาประกันภัยระหว่างโจทก์และจำเลยเป็นสัญญาที่ให้ความคุ้มครองการสูญเสียและการเสียหายเนื่องจากจากเพลิงไหม้หรือฟ้าผ่าทรัพย์สินที่เอาประกันภัย ซึ่งกรมธรรม์ประกันภัยระบุไว้ชัดแจ้งว่า “กรมธรรม์ประกันอัคคีภัย” และในส่วนที่ว่าด้วยสัญญาคุ้มครองก็ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า “บริษัทตกลงสัญญากับผู้เอาประกันภัยว่า ถ้าทรัพย์สินที่เอาประกันภัยดังกล่าวหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของทรัพย์สินที่เอาประกันภัยนี้ต้องสูญเสียหรือเสียหายเนื่องจากเพลิงไหม้ หรือฟ้าผ่าหรือการระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น ” นอกจากนี้ ข้อ ๒ และ ๒.๕ แห่งกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวยังได้ระบะว่า “เว้นแต่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ฉบับนี้โดยชัดแจ้งการประกันภัยนี้ไม่คุ้มครองการสูญเสียหรือการเสียหายอันเกิดจากหรือเนื่องมาจากหรือเป็นผลโดยตรงหรือโดยอ้อมจากสาเหตุต่อไปนี้… ๒.๕ การระเบิดทุกชนิด รวมทั้งการระเบิดของแก๊สในโรงงานแก๊สหรือการระเบิดของแก๊สที่ใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือการผลิต (เว้นแต่การระเบิดของแก๊สสำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่ออยู่อาศัยเท่านั้น)” เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าความเสียหายของทรัพย์สินที่เอาประกันภัยเกิดจากการระเบิดของแก๊สที่ใช้หุงต้มอาหารในภัตตาคารชัยเฮาส์ในการประกอบกิจการจำหน่ายอาหาร จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัย ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า ตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย จ.๕ หน้า ๔ ในส่วนที่ว่าด้วยสัญญาคุ้มครองได้ระบุไว้ชัดเจนว่า จำเลยจะต้องรับผิดในทรัพย์สินที่เอาประกันภัยต้องสูญเสียหรือเสียหายไปเฉพาะ “เนื่องจากเพลิงไหม้หรือฟ้าผ่า หรือการระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น” เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติแล้วว่า ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยต้องสูญเสียหรือเสียหายเนื่องมาจากการระเบิดของแก๊สที่ใช้จุดสำหรับหุงต้มอาหารเพื่อจำหน่ายในกิจการของบริษัทชัยเฮาส์ (๑๙๘๐) จำกัด ที่ภัตตาคารชัยเฮาส์ซึ่งอยู่ติดกับสำนักงานของโจทก์ จึงมิใช่การระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัย โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าเหตุดังกล่าวจะเกิดขึ้นจากการกระทำของโจทก์ผู้เอาประกันภัยหรือบุคคลภายนอกตามฎีกาของโจทก์ การสูญเสียหรือเสียหายของทรัพย์สินที่โจทก์ได้เอาประกันภัยไว้จึงไ่นความคุ้มครอง ทั้งยังเข้าข้อยกเว้นความรับผิดตามข้อ ๒.๕ ที่กำหนดไว้ว่าการประกันภัยรายนี้ไม่คุ้มครองการสูญเสียหรือการเสียหายอันเกิดจากหรือเนื่องมาจากการระเบิดทุกชนิด รวมทั้งการระเบิดของแก๊สที่ใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือการผลิต ดังนั้น จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว เมื่อฟังว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์แล้วจึงไม่ต้องวินิจฉัยในปัญหาเกี่ยวกับค่าเสียหายต่อไป ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share