แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและการต่ออายุสัญญาทั้งสี่ครั้งได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้แน่นอนในวันสุดท้ายของอายุสัญญาทุกครั้งเมื่อครบกำหนดอายุสัญญาครั้งสุดท้ายแล้วจำเลยมิได้เบิกเงินหรือนำเงินเข้าบัญชีอีก พฤติการณ์ของคู่กรณีที่ปฏิบัติต่อกันแสดงให้เห็นว่าเจตนาได้ว่า หากไม่มีการต่ออายุสัญญาออกไป ก็ให้ถือว่าให้เลิกสัญญากันเมื่อสิ้นสุดอายุสัญญาโดยไม่จำต้องมีการบอกเลิกสัญญาอีก จึงต้องหักทอนบัญชีเมื่อครบกำหนดอายุสัญญาครั้งสุดท้ายโจทก์จะคิดดอกเบี้ยทบต้นต่อไปมิได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีกับโจทก์ กำหนดส่งดอกเบี้ยเป็นรายเดือน หากผิดนัดยอมให้คิดดอกเบี้ยทบต้นครั้นเมื่อครบกำหนดชำระหนี้จำเลยไม่ชำระให้เสร็จสิ้น แต่ได้ต่อสัญญาออกไปอีก ๔ ครั้งครั้งละ ๖ เดือน ต่อมาโจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยกู้เบิกเงินเกินบัญชีต่อไปได้ทวงถามให้ชำระหนี้ แต่จำเลยไม่ชำระจึงขอให้บังคับจำเลยร่วมกันชำระเงิน ๑๐๓,๑๑๑.๗๗ บาทแก่โจทก์
จำเลยให้การต่อสู้คดีหลายประการ รวมทั้งต่อสู้ว่าสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีสิ้นสุดลงในวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๑๒ โจทก์จะคิดดอกเบี้ยทบต้นต่อไปไม่ได้
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยทบต้นได้เพียง วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๑๒ พิพากษาให้จำเลยร่วมกันชำระเงิน ๒๖,๘๑๕.๗๖ บาทแก่โจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยทบต้นได้ถึงวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๒ อันเป็นวันที่โจทก์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยชำระหนี้ พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยร่วมกันชำระเงิน ๑๐๑,๒๔๐.๑๑ บาทแก่โจทก์
จำเลยฎีกาขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยที่ ๑ ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีกับโจทก์แล้วทำการเบิกเงินและนำเงินเข้าบัญชีหักกลบลบกัน เป็นความผูกพันในลักษณะของสัญญาบัญชีเดินสะพัด ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและการต่ออายุสัญญาทั้ง ๔ ครั้งได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้แน่นอนในวันสุดท้ายของอายุสัญญาทุกครั้งโดยทำหลักฐานกันไว้เป็นหนังสือ เมื่อครบกำหนดอายุสัญญาครั้งสุดท้ายในวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๑๒ แล้วจำเลยที่ ๑ มิได้เบิกเงินหรือนำเงินเข้าบัญชีอีก ศาลฎีกาเห็นว่าพฤติการณ์ของคู่กรณีที่ปฏิบัติต่อกันแสดงให้เห็นเจตนาได้ว่า หากไม่มีการต่ออายุสัญญาออกไปก็ให้ถือว่าเลิกสัญญากันเมื่อสิ้นสุดอายุสัญญา โดยไม่จำต้องมีการบอกเลิกสัญญาอีกจึงต้องหักโอนบัญชีเมื่อครบกำหนดอายุสัญญาครั้งสุดท้ายดังกล่าวข้างต้น โจทก์จะคิดดอกเบี้ยทบต้นต่อไปมิได้ คำพิพากษาฎีกาที่ ๒๗๒๘/๒๕๑๗และที่ ๒๔๓๓/๒๕๑๙ ที่โจทก์อ้างในคำแก้ฎีกา ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้ ฎีกาจำเลยทั้งสี่ฟังขึ้น
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น