คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 349/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้มีกรรมสิทธิ์ร่วมกับเจ้ามรดก ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 ย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านในกรณีที่มีผู้ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกได้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าผู้ร้องเป็นภริยาของนายบุญธรรม เชี่ยวชาญมาก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ต่อมาเมื่อวันที่ 27พฤษภาคม 2513 นายบุญธรรม เชี่ยวชาญ ถึงแก่กรรม ขณะถึงแก่กรรมนายบุญธรรม เชี่ยวชาญ มีมรดกเป็นอสังหาริมทรัพย์ และสังหาริมทรัพย์รวมเป็นเงิน 80,000 บาท ผู้ถึงแก่กรรมมิได้ทำพินัยกรรมตั้งผู้ใดเป็นผู้จัดการมรดกขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก

นางเลื่อน เชี่ยวชาญ ผู้ร้องคัดค้าน ยื่นคำร้องว่านางทุเรียน เชี่ยวชาญ เลิกร้างกับนายบุญธรรม เชี่ยวชาญ แล้ว ส่วนผู้ร้องคัดค้านได้ทำมาหากินร่วมกับผู้ตาย มีบุตรด้วยกัน 6 คน และได้ครอบครองทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำคัดค้านร่วมกับผู้ตายมาจนถึงวันที่ 26 พฤษภาคม 2513 ผู้ตายก็ตาม โดยที่ผู้ร้องคัดค้านเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สินร่วมกับผู้ตาย ส่วนผู้ร้องไม่ได้เกี่ยวข้องในทรัพย์สินดังกล่าว ไม่มีสิทธิร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ขอให้ยกคำร้อง หากศาลต้องไต่สวนตั้งผู้จัดการมรดก ก็ขอให้แต่งตั้งผู้ร้องคัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้องด้วย

วันนัดพร้อม ผู้ร้องและผู้ร้องคัดค้านแถลงรับข้อเท็จจริงกันดังนี้

(1) ผู้ร้องได้สมรสกับนายบุญธรรมผู้ตายก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 จริง

(2) ผู้ร้องคัดค้านกับนายบุญธรรมได้เสียเป็นสามีภริยากันเมื่อ25 ปีมานี้ โดยมิได้จดทะเบียนสมรส

(3) ผู้ร้องเกิดบุตรกับนายบุญธรรมผู้ตาย 7 คน ทุกคนยังมีชีวิตอยู่

ศาลชั้นต้นพิเคราะห์คำร้องและคำคัดค้านประกอบข้อเท็จจริงที่รับกันแล้วเห็นว่าผู้ร้องคัดค้านเป็นภริยาไม่ชอบด้วยกฎหมายของนายบุญธรรมผู้ตาย จึงมิใช่ทายาทที่จะรับมรดกของผู้ตาย ผู้ร้องคัดค้านมิได้ร้องขอให้ฐานะเป็นผู้แทนของบุตรผู้เยาว์ ถือได้ว่าผู้ร้องคัดค้านมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียที่จะร้องคัดค้านได้ ให้ยกคำร้องคัดค้านของผู้ร้องคัดค้าน ให้ดำเนินการไต่สวนพยานผู้ร้องต่อไป และมีคำสั่งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย

ผู้ร้องคัดค้านอุทธรณ์ขอให้พิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย แล้วทำการไต่สวนมีคำสั่งให้ผู้ร้องคัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายต่อไป

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องคัดค้านของผู้ร้องคัดค้าน กับยกคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกเสีย ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่อย่างคดีมีข้อพิพาท

ผู้ร้องฎีกาว่าผู้ร้องคัดค้านมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 จึงไม่มีสิทธิร้องคัดค้าน

ศาลฎีกาพิเคราะห์คำร้องคัดค้านแล้วมีใจความสำคัญว่า ผู้ร้องคัดค้านได้ทำมาหากินร่วมกับผู้ตาย มีบุตรด้วยกัน 6 คน และครอบครองทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์ท้ายคำร้องคัดค้านร่วมกับผู้ตายจนถึงวันที่ 26 พฤษภาคม 2513 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ตายถึงแก่กรรม ดังนี้เท่ากับผู้ร้องคัดค้านอ้างว่าทรัพย์ที่ผู้ร้องขอจัดการมรดกนั้นไม่ใช่มรดกทั้งหมด ผู้ร้องคัดค้านมีกรรมสิทธิ์ร่วมอยู่ด้วย กรณีเช่นนี้ถือได้ว่าผู้ร้องคัดค้านเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 ย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share