แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง แต่มีอายุ 15 ปี ลดมาตราส่วนโทษกึ่งหนึ่งตามมาตรา75แล้วพิพากษา6ปีลดตามมาตรา 78 อีก 1 ใน 3 คงจำคุก 4 ปี ศาลอุทธรณ์เห็นว่ายังไม่สมควรพิพากษาลงโทษจำคุกพิพากษาแก้เป็นว่าให้ส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรม ณ สถานเยาวชนฯจนกว่าจะมีอายุ 18 ปี ตามมาตรา 75, 74(5) ดังนี้ เป็นการพิพากษาแก้มาก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันปล้นทรัพย์ ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 83 และคืนของกลางแก่เจ้าทรัพย์
จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรค 2 จำเลยที่ 1 อายุ 15 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 ให้จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 6 ปีคำรับสารภาพของจำเลยที่ 1 ยังเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1มีกำหนด 4 ปี ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 และที่ 3 คนละ 12 ปี ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 2ที่ 3 คนละ 6 ปี ของกลางเจ้าทรัพย์รับคืนไปแล้ว ให้ยกคำขอส่วนนี้
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ให้ส่งตัวจำเลยที่ 1 ไปฝึกอบรมณ สถานเยาวชนบ้านห้วยโป่ง จังหวัดระยอง จนกว่าจำเลยที่ 1 จะมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 ประกอบด้วยมาตรา 74(5) นอกจากที่แก้ให้ยืมตามศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขมาก โจทก์จึงฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ และพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น