คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 349/2472

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ฟ้องหาว่าเขาบุกรุกที่ดินของตนต้องนำสืบว่าเขารุกเข้ามาเท่าใด

ย่อยาว

โจทก์จำเลยมีที่ดินติดต่อกันต่างมีโฉนดแผนที่แล้ว โจทก์ได้ทำรั้วสังกะสีกั้นเขตต์ไว้ยาวประมาณ ๓-๔ วา ที่ไม่มีรั้วก็ปักเสาไว้เป็นแนวเขตต์ ครั้นไฟไหม้บ้านเรือนแล้วรั้วสังกะสีหมดแล้ว จำเลยได้กั้นลวดหนามล้อมเขตต์ที่ดินของจำเลยตามแนวซากตอเสารั้วเดิมของโจทก์ ต่อมาจำเลยทำรั้วสังกะสีกั้นขึ้นใหม่ตามแนวรั้วลวดหนาม โจทก์จึงฟ้องหาว่าจำเลยบุกรุกแลเรียกค่าเสียหาย
ศาลเดิมตัดสินยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ตัดสินกลับให้จำเลยรื้อรั้วที่ทำโค้งรุกเข้าไปในที่ของโจทก์แลใช้ค่าเสียหาย ๑๐ บาท
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำพะยานโจทก์จำเลยประกอบกับแผนที่วิวาท ปรากฎว่าหลักเขตต์หมายเลข ๒๓๘๗๔ ที่ติดกับที่ของโจทก์จำเลยแล ข.เป็นหลักเขตต์ตรงเป็นแนวเดียวกับหลักเขตต์หมายเลข ๕ ซึ่งเป็นหลักรั้วเดิม รั้วที่จำเลยกั้นขึ้นก็อยู่ในแนวนี้ จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ต้องนำสืบว่าจำเลยรุกที่นาของโจทก์จำนวนเนื้อที่เท่าใด แต่โจทก์หามีเจ้าพนักงานคนใดมาสืบว่าได้ทำการสอบสวนที่ดินของโจทก์ขาดเกินจากโฉนดอย่างไรไม่ คดีโจทก์ก็ย่อมไม่ชนะจำเลยได้ ให้ยกคำตัดสินศาลอุทธรณ์เสีย คงยืนตามศาลเดิม

Share