คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3472/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องคดีโดยผู้ร้องซึ่งร้องขอเป็นผู้แทนเฉพาะคดีของโจทก์โดยอ้างว่าโจทก์เป็นคนวิกลจริต ก่อนวันนัดไต่สวนคำร้องขอเป็นผู้แทนเฉพาะคดี โจทก์แต่งทนายความมายื่นคำร้องขอถอนฟ้อง ดังนี้โจทก์ซึ่งถูกอ้างว่าเป็นบุคคลวิกลจริตและกฎหมายจะต้องให้ความคุ้มครอง ไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอถอนฟ้องที่ผู้ร้องกำลังขอเป็นผู้แทนเฉพาะคดีดำเนินการอยู่ ชอบที่ศาลจะต้องทำการไต่สวนว่าโจทก์เป็นบุคคลวิกลจริตหรือไม่แล้วมีคำสั่งต่อไป และเมื่อศาลชั้นต้นยังไม่ได้รับคำฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา จึงยังไม่มีคำฟ้องที่จะอนุญาตให้โจทก์ถอนได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องโดยพันจ่าเอกหญิงเบญจภรณ์ เที่ยงดี ร้องขอเป็นผู้แทนเฉพาะคดี ว่า จำเลยทั้งห้าได้ร่วมกับพวกลักพาโจทก์ไปโดยประสงค์ได้เงินจำนวน 5,336,000 บาท และที่ดินอีกหลายแปลงของโจทก์เป็นค่าไถ่ และได้ร่วมกันลักทรัพย์ดังกล่าวรวมกับทรัพย์สินอื่น ๆ ไป โดยใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรมและข่มขืนใจให้โจทก์ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ขอให้พิพากษาลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา ฯลฯ และให้ร่วมกันคืนหรือใช้เงินหรือราคาทรัพย์ให้แก่โจทก์

ศาลชั้นต้นสั่งคำฟ้องว่า “รอฟังคำสั่งการขอเป็นผู้แทนเฉพาะคดีก่อน” และสั่งคำร้องขอเป็นผู้แทนเฉพาะคดีว่า “สำเนาให้จำเลย นัดไต่สวน”

ก่อนวันนัดไต่สวนคำร้อง ปรากฏว่าโจทก์แต่งทนายความมายื่นคำร้องขอถอนฟ้อง ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาต ให้จำหน่ายคดี

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งที่อนุญาตให้ถอนฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาว่านางบุญมี ศุขมาลัย โจทก์ มีอำนาจยื่นคำร้องขอถอนฟ้องได้หรือไม่ เห็นว่า บทบัญญัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 6 มิใช่เป็นเรื่องตัวการตัวแทนตามหลักทั่วไปที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ตัวการจะถอนตัวแทนหรือเข้าทำกิจการที่มอบให้ตัวแทนทำเสียในเวลาใด ๆ ก็ได้ ทุกเมื่อ แต่เป็นบทบัญญัติที่คุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ และทรัพย์สินของผู้เยาว์ที่ไม่มีผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้วิกลจริตหรือคนไร้ความสามารถที่ไม่มีผู้อนุบาล หรือซึ่งผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้อนุบาลไม่สามารถจะทำการตามหน้าที่โดยเหตุใดเหตุหนึ่งรวมทั้งมีผลประโยชน์ขัดกันกับผู้เยาว์หรือคนไร้ความสามารถนั้น ๆ ซึ่งได้รับความเสียหายทางคดีอาญา เมื่อผู้ร้องซึ่งขอเป็นผู้แทนเฉพาะคดีอ้างว่า นางบุญมีเป็นคนวิกลจริตและได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดทางอาญาของจำเลยกับพวก และผู้ร้องเป็นญาติ ศาลชั้นต้นจะต้องทำการไต่สวนว่านางบุญมีเป็นบุคคลวิกลจริตหรือไม่ แล้วมีคำสั่งตามที่เห็นสมควรต่อไป นางบุญมีซึ่งถูกผู้ร้องอ้างว่าเป็นบุคคลวิกลจริตและกฎหมายจะต้องให้ความคุ้มครอง จึงไม่มีอำนาจมายื่นคำร้องขอถอนฟ้องที่ผู้ร้องกำลังขอเป็นผู้แทนเฉพาะคดีดำเนินการอยู่ เพราะถ้านางบุญมีเป็นผู้วิกลจริตจริงสภาพแห่งร่างกายและจิตใจย่อมอยู่ในภาวะที่ไม่มีความรู้สึกผิดชอบ นางบุญมีจะทำได้ในชั้นนี้ก็แต่เพียงคัดค้านว่าตนมิใช่คนวิกลจริต ขอให้ศาลยกคำร้อง และที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่านางบุญมีเป็นตัวความย่อมมีสิทธิถอนฟ้องเสียได้ ศาลชั้นต้นยังไม่ได้มีคำสั่งให้ผู้ร้องเป็นผู้แทนเฉพาะคดี และผู้ร้องก็มิได้โต้แย้งว่านางบุญมีแต่งตั้งทนายความเพื่อร้องขอถอนฟ้องไม่ชอบอย่างไร จึงไม่จำเป็นต้องฟังคำคัดค้านของผู้ร้อง นั้น เห็นว่า เป็นการวินิจฉัยขัดต่อเจตนารมณ์ของบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 6 ที่ประสงค์จะคุ้มครองนางบุญมีซึ่งผู้ร้องอ้างว่าเป็นบุคคลวิกลจริต นอกจากนี้ศาลชั้นต้นยังไม่ได้สั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณา จึงยังไม่มีคำฟ้องที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้ถอนได้ การอนุญาตให้ถอนฟ้องจึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายฎีกาผู้ร้องฟังขึ้น

พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ถอนฟ้อง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องขอเข้าเป็นผู้แทนเฉพาะคดีแล้วมีคำสั่งตามที่เห็นสมควรต่อไป

Share