คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3461/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คู่ความท้ากันให้ศาลวินิจฉัยข้อกฎหมายเพียงข้อเดียวโดยไม่สืบพยานว่าจำเลยมีสิทธิจะไม่ขายที่ดินตามสัญญาจะซื้อขายเพราะไม่ได้รับความยินยอมจากจำเลยร่วมหรือไม่โดยคู่ความแถลงรับกันว่า จำเลยได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทมาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2524 จำเลยจดทะเบียนสมรสกับจำเลยร่วมเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2525 อันถือได้ว่าคู่ความสละประเด็นข้ออื่นในคดีแล้ว การที่จำเลยและจำเลยร่วมยกข้อโต้แย้งว่าที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์ที่ทำมาหาได้ร่วมกันมาในฐานะหุ้นส่วน จำเลยร่วมจึงมีสิทธิในที่ดินพิพาทรวมอยู่ด้วยนั้น เป็นการตั้งประเด็นใหม่อีกหาอาจกระทำได้ไม่ ข้อโต้แย้งของจำเลยและจำเลยร่วมดังกล่าวอยู่นอกคำท้าศาลไม่รับวินิจฉัยให้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้อง ขอบังคับให้จำเลยโอนขายที่ดินโฉนดเลขที่ 7594 ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาครเนื่องที่ 16 เศษ 6.5/10 ตารางวา และบ้านเลขที่ 926/182ซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินโฉนดดังกล่าวแก่โจทก์ โดยโจทก์จะชำระราคาที่ค้าง 240,000 บาทแก่จำเลย หากจำเลยไม่ยอมปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การว่า จำเลยตกลงขายบ้านเลขที่ 926/182 พร้อมที่ดินโฉนดเลขที่ 7594 ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาครจังหวัดสมุทรสาคร เนื้อที่ 11 ตารางวาแก่โจทก์มิใช่เนื้อที่16 เศษ 6.5/10 ตารางวา ตามที่โจทก์ฟ้อง จำเลยมิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาเพราะได้ไปที่สำนักงานที่ดินเพื่อโอนกรรมสิทธิ์แก่โจทก์ตามนัดหากโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาที่จะให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้จำนวน16 เศษ 6.5/10 ตารางวา เกินกว่าจำนวนที่ตกลงกับจำเลยและที่จำเลยมีกรรมสิทธิ์อยู่โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยจึงบอกเลิกสัญญาต่อโจทก์ ลายมือชื่อผู้ให้ความยินยอมตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 1มิใช่ลายมือชื่อสามีโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ในระหว่างพิจารณา นาง จารึก เอ็งประเสริฐ ร้องสอดเข้ามาว่าเป็นภริยาจำเลย ทรัพย์สินที่โจทก์ฟ้องผู้ร้องสอดเป็นเจ้าของร่วมกับจำเลย จำเลยไม่มีสิทธิขายโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ร้องสอดผู้ร้องสอดให้ทนายความมีหนังสือบอกล้างสัญญาดังกล่าวต่อโจทก์แล้วสัญญาจึงตกเป็นโมฆะ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอศาลอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเป็นจำเลยร่วม เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ร้อง ศาลชั้นต้นอนุญาตให้นางจารึกเข้าเป็นจำเลยร่วมได้
ระหว่างสืบพยานโจทก์ คู่ความแถลงรับกันว่า โจทก์มิได้ผิดสัญญาจะซื้อจะขาย โจทก์ยอมซื้อที่ดินจำนวน 11 ตารางวา ตามสิทธิของจำเลยจำเลยได้กรรมสิทธิ์ที่ดินมาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2524 จำเลยจดทะเบียนสมรสกับจำเลยร่วมเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2525 เหตุที่จำเลยไม่ยอมขายที่ดินและบ้านให้โจทก์ เพราะจำเลยร่วมไม่ได้ให้ความยินยอมและบอกล้างสัญญานั้นแล้ว และคู่ความท้ากันให้ศาลวินิจฉัยข้อกฎหมายเพียงข้อเดียวโดยไม่สืบพยานว่า จำเลยมีสิทธิจะไม่ขายที่ดินตามสัญญาจะซื้อขายเพราะไม่ได้รับความยินยอมจากจำเลยร่วมหรือไม่
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ที่ดินที่จำเลยจะขายเป็นสินส่วนตัวจำเลยจึงมีอำนาจขายได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากจำเลยร่วมพิพากษาให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 7594 ตำบลมหาชัยอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เนื้อที่ 11 ตารางวาพร้อมบ้านเลขที่ 926/182 ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินดังกล่าวแก่โจทก์ให้โจทก์ชำระเงินที่ชำระไม่ครบตามส่วน ถ้าจำเลยไม่ยอมปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยและจำเลยร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยและจำเลยร่วมฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยและจำเลยร่วมฎีกาว่าจำเลยและจำเลยร่วมอยู่กินฉันสามีภรรยามาก่อนที่จำเลยได้รับโอนที่ดินพิพาทอันเป็นทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกันมาในฐานหุ้นส่วน จำเลยร่วมจึงมีสิทธิในที่ดินพิพาทรวมอยู่ด้วย ยังฟังไม่ยุติและมิได้เป็นไปตามคำท้าว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยร่วมและจำเลยร่วมมีสิทธิบอกล้างได้หรือไม่ ศาลควรฟังข้อเท็จจริงต่อไปมิใช่งดสืบพยานแล้วพิพากษาคดี ขอให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์จำเลย เห็นว่าคดีนี้คู่ความท้ากันให้ศาลวินิจฉัยข้อกฎหมายเพียงข้อเดียว โดยไม่สืบพยานว่าจำเลยมีสิทธิจะไม่ขายที่ดินตามสัญญาจะซื้อขายเพราะไม่ได้รับความยินยอมจากจำเลยร่วมหรือไม่ โดยคู่ความแถลงรับกันว่าจำเลยได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทมาเมื่อวันที่ 17ธันวาคม 2524 จำเลยจดทะเบียนสมรสกับจำเลยร่วม เมื่อวันที่13 สิงหาคม 2525 ปรากฎตามรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่19 กันยายน 2527 ของศาลชั้นต้นอันถือได้ว่าคู่ความสละประเด็นข้ออื่นในคดีแล้ว จำเลยและจำเลยร่วมจะโต้แย้งว่าที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกันมาในฐานะหุ้นส่วน จำเลยร่วมจึงมีสิทธิในที่ดินพิพาทรวมอยู่ด้วยโดยยกขึ้นตั้งเป็นประเด็นใหม่อีกหาได้ไม่ข้อโต้แย้งของจำเลยร่วมดังกล่าวอยู่นอกคำท้า ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาไปตามที่คู่ความตกลงกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีเหตุที่จะต้องสืบพยานโจทก์จำเลยเพื่อฟังข้อเท็จจริงกันอีก”
พิพากษายืน

Share