แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สามีมิได้รู้เห็นและให้ความยินยอมภริยาทำนิติกรรมซื้อขายสินบริคณห์  เมื่อได้บอกล้างนิติกรรมนั้นแล้ว  นิติกรรมนั้นย่อมเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา 138
บุคคลที่รับโอนทรัพย์สินมาโดยไม่สุจริตจากผู้โอนที่ได้ทรัพย์สินมาโดยนิติกรรมอันเป็นโมฆียะ  เมื่อนิติกรรมนั้นถูกบอกล้าง  บุคคลที่รับโอนนั้นไม่ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย ์  มาตรา 1329
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า  โจทก์กับจำเลยที่ ๑ เป็นสามีภริยา  ระหว่างอยู่กินเป็นสามีภริยาได้ซื้อที่พิพาทลงชื่อจำเลยที่ ๑ ถือกรรมสิทธิ์  ต่อมาจำเลยที่ ๑  โอนที่พิพาทให้  จำเลยที่ ๒, ๓, ๔ โดยโจทก์มิได้ยินยอม  โจทก์ให้ทนายความบอกล้างการซื้อขายขอให้สั่งเพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายที่พิพาทและให้แสดงว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่พิพาทร่วมกับจำเลยที่ ๑
จำเลยที่ ๑  รับว่าฟ้องเป็นความจริง
จำเลยที่ ๒, ๓, ๔  ให้การว่า  ได้ซื้อที่พิพาทจากจำเลยที่ ๑ จริง  โดยจำเลยที่ ๑ แจ้งว่าสามีทำหนังสือยินยอม  แต่หาไม่พบจึงไม่ได้นำไปวันทำสัญญา เจ้าหน้าที่ว่าซื้อขายได้จำเลยเชื่อว่าเป็นการซื้อขายโดยสุจริตทั้งชำระราคาที่ดินแล้ว  โจทก์ไม่มีสิทธิขอเพิกถอน  จำเลยไม่เคยได้รับหนังสือบอกล้างโจทก์ไม่มีสิทธิบอกล้าง  เพราะให้ความยินยอมแล้ว
โจทก์ขอเรียกนายสหาก  ขำวิลัย  เป็นจำเลยร่วม  ศาลเรียกนายสหาก  ขำวิลัยเป็นจำเลยร่วม  นายสหาก  ขำวิลัย ให้การว่า  ซื้อที่พิพาทจากจำเลยที่ ๒, ๓, ๔ โดยสุจริต  ชำระราคาแล้ว  โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอเพิกถอน
ศาลชั้นต้นเห็นว่า  โจทก์ใช้สิทธิบอกล้างนิติกรรมโดยไม่สุจริต  ฟังได้ว่าจำเลยร่วมได้รับโอนที่พิพาทโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน  โจทก์ไม่มีอำนาจเพิกถอน  พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เชื่อว่า  โจทก์ไม่รู้เห็นการขายที่พิพาท  โจทก์ไม่ยินยอมให้ขาย  นิติกรรมซื้อขายเป็นโมฆียะ  เมื่อโจทก์บอกล้างจึงเป็นโมฆะ  จำเลยร่วมซื้อไม่สุจริต  พิพากษากลับว่านิติกรรมซื้อขายเป็นโมฆะ  ให้เพิกถอนและให้ลงชื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยที่ ๑
จำเลยที่ ๒, ๓, ๔  และจำเลยร่วมฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า  โจทก์มิได้รู้เห็นและให้ความยินยอม  ได้บอกล้างนิติกรรม  การซื้อขายที่พิพาทจึงเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรกตามมาตรา ๑๓๘
จำเลยร่วมรับโอนที่พิพาทจากจำเลยที่ ๒, ๓, ๔  โดยรู้ว่าการซื้อขายเป็นโมฆียะ  และโจทก์บอกล้างแล้ว  การโอนมิได้เป็นไปโดยสุจริต  จำเลยร่วมก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา  ๑๓๒๙  โจทก์มีสิทธิเรียกร้องให้เพิกถอนการซื้อขายที่พิพาทระหว่างจำเลยที่ ๒, ๓, ๔ กับจำเลยร่วมได้
พิพากษายืน
