คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อฟังว่าผู้กู้ลงชื่อไนหนังสือกู้จิงแล้ว การที่ผู้กู้ต่อสู้ว่าจำนวนเงินกู้ปลอมแปลง ก็เปนหน้าที่ผู้กู้ต้องนำสืบ

ย่อยาว

โจทฟ้องเรียกเงินกู้ ๑๐๐๐ บาท จำเลยต่อสู้และฟ้องแย้งว่าไม่เคยกู้เงินโจท ๑๐๐๐ บาท แต่เคยทำสัญญากู้ไห้ไว้ ๑๐๐๐ บาท หากสัญญาที่ฟ้องนี้มีลายเซ็นจำเลยก็เปนสัญญาปลอมแปลง
สาลชั้นต้นไห้โจทชนะคดี สาลอุธรน์ยกฟ้อง
โจทดีกา สาลดีกาฟังว่าจำเลยได้ลงลายมือไนหนังสือที่โจทนำมาฟ้องจิง เมื่อเช่นนี้ก็เปนหน้าที่ของจำเลยนำสืบว่า สัญญานี้ได้ถูกปลอมแปลงคือว่ากู้กัน ๑๐๐บาท แต่ไส่จำนวนเงินเปน ๑๐๐๐ บาท แต่จำเลยสืบไม่สน จึงพิพากสาไห้โจทชนะคดี

Share