แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยที่2เป็นนายทะเบียนตามพ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งมีหน้าที่พิจารณาการจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมนายจ้างหรือสหภาพแรงงานสหพันธ์นายจ้างหรือสหพันธ์แรงงานกับสภาองค์การนายจ้างและสภาองค์การลูกจ้างตลอดจนหน้าที่อื่นๆอันเป็นการรับจดทะเบียนเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้การที่โจทก์ซึ่งเป็นสมาชิกสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทยร้องเรียนต่อจำเลยที่2ว่าการประชุมใหญ่ของสภาองค์การลูกจ้างฯเป็นโมฆะและจำเลยที่2ได้มีหนังสือถึงโจทก์แสดงข้อเท็จจริงและความเห็นที่จำเลยที่2ตรวจสอบจากหลักฐานต่างๆโดยมิได้มีหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องกระทำเช่นนั้นจึงมิใช่คำสั่งเรื่องการเป็นโมฆะมิได้เป็นการโต้แย้งสิทธิและหน้าที่ของโจทก์.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นสมาชิกสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย จำเลยที่ 1 เป็นนายทะเบียนกลาง จำเลยที่ 2 เป็นอธิบดีกรมแรงงาน เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2527 ได้มีการประชุมใหญ่ของสภาองค์การลูกจ้างแห่งประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2527 แต่ในจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมมีสมาชิกที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบซึ่งไม่มีสิทธิเข้าร่วมประชุม ไม่มีสิทธิออกเสียง และไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการบริหาร และมีตัวแทนจาำสหภาพแรงงานเข้าร่วมประชุมโดยไม่มีอำนาจ เป็นเหตุให้โจทก์เสียสิทธิในการใช้สิทธิในที่ประชุมและเสียงสิทธิในการส่งตัวแทนลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการบริหาร ซึ่งโจทก์ได้ตกลงกับผู้ที่จะสมัครว่า ให้สมัครพอดีจำนวนของกรรมการ หากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิดังกล่าวไม่ลงสมัครด้วย สมาชิกโจทก์ก็สามารถลงสมัครและรับเลือกตั้งเป็นกรรมการบริหารได้ โจทก์ได้ร้องเรียนต่ออธิบดีกรมแรงงานขอให้มีคำสั่งว่าการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2527 เป็นโมฆะ แต่อธิบดีกรมแรงงานมีคำสั่งว่าถูกต้องแล้วขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยและขอให้มีคำสั่งว่าการประชุมใหญ่ดังกล่าวเป็นโมฆะ
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์มิได้เป็นสมาชิกสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่ประเทศไทย จำเลยที่ 1 มิได้เป็นนายทะเบียนกลาง หลังจากจำเลยที่ 2 รับจดทะเบียนคณะกรรมการบริหารที่ได้รับเลือกตั้งใหม่แล้วได้มีการร้องเรียนว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ จำเลยที่ 2 ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่า เมื่อหักคะแนนเสียงของผู้เข้าร่วมประชุมที่ขาดคุณสมบัติและคะแนนเสียงของสหภาพแรงงานที่ไม่ได้เป็นสมาชิกออกแล้วเสียงข้างมากที่ชนะการเลือกตั้งยังไม่เปลี่ยนแปลง และเมื่อเพิกถอนกรรมการที่ได้รับเลือกตั้งแต่ขาดคุณสมบัติแล้ว จำนวนกรรมการที่เหลือมีจำนวนเท่ากับกรรมการที่ต้องการ หนังสือของจำเลยที่ 2 เป็นเพียงหนังสือแจ้งผลลการสอบข้อเท็จจริงและความเห็น มิได้เป็นคำสั่งของนายทะเบียนกลาง ไม่มีผลบังคับตามกฎหมายและต่อมาคณะกรรมการบริหารได้ลาออกจากตำแหน่งจำนวนเกินกว่าสองในสามของทั้งหมด คณะกรรมการชุดนี้จึงพ้นจากตำแหน่งตามข้อบังคับไม่มีเหตุจำเป็นจะต้องสั่งให้เป็นโมฆะอีก
วันนัดพร้อม คู่ความขอให้ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยข้อกฎหมายเบื้องต้นเกี่ยวกับอำนาจฟ้องของโจทก์คือ
1. คำสั่งที่ มท 1108/6878 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2528 ของจำเลยที่ 2 เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์และเป็นเหตุให้โจทก์มีอำนาจฟ้องเพิกถอนหรือไม่
2. โจทก์มีสิทธิขอให้ศาลมีคำสั่งให้การประชุมใหญ่สามัญประจำปีเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2527 ของสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทยเป็นโมฆะหรือไม่ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งอนุญาตให้งดสืบพยานโจทก์จำเลย
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “จำเลยที่ 2 เป็นนายทะเบียนตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้แต่งตั้งตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2518ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้แต่งตั้งตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 759/2519 เรื่องแต่งตั้งนายทะเบียนตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2519 โดยมีหน้าที่พิจารณาจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมนายจ้างหรือสหภาพแรงงาน สหพันธ์นายจ้างหรือสหพันธ์แรงงาน กับสภาองค์การนายจ้างและสภาองค์การลูกจ้าง ตลอดจนหน้าที่อื่น ๆ อันเป็นการรับจดทะเบียนเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้นการที่โจทก์ร้องเรียนต่อจำเลยที่ 2 ว่าการประชุมใหญ่ของสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทยเป็นโมฆะด้วยเหตุหลายประการและจำเลยที่ 2ได้มีหนังสือที่ มท 1108/6878 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2528 ถึงโจทก์ก็เป็นเพียงการแสดงข้อเท็จจริงที่ได้จากการตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆและความเห็นของจำเลยที่ 2 ให้โจทก์ทราบโดยจำเลยที่ 2 มิได้มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องกระทำเช่นนั้น มติที่ประชุมใหญ่ของสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทยเรื่องการแต่งตั้งกรรมการจะเป็นโมฆะหรือไม่ก็มิใช่เป็นเรื่องที่จำเลยที่ 2 ได้เกี่ยวข้องด้วย หนังสือของจำเลยที่ 2 ที่ มท 1108/6878 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2528 จึงมิใช่คำสั่งที่แสดงว่าการประชุมใหญ่ดังกล่าวเป็นโมฆะโดยเด็ดขาดและมิได้เป็นการโต้แย้งสิทธิและหน้าที่ของโจทก์แต่อย่างใด โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนได้ คำพิพากษาของศาลแรงงานกลางในปัญหาข้อนี้ชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.