แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นในคดีก่อนพิพากษาให้ริบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลหมายเลขทะเบียน บก 5451 น่าน คดีถึงที่สุดแล้วตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ป.อ. มาตรา 36 เพียงแต่บัญญัติให้สิทธิแก่เจ้าของแท้จริงของทรัพย์ที่ถูกริบในคดีนั้น ในอันที่ขอคืนทรัพย์โดยเหตุมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด
การที่ศาลชั้นต้นในคดีดังกล่าววินิจฉัยว่า รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลหมายเลขทะเบียน บก 5451 น่าน เป็นยานพาหนะที่จำเลยใช้ในการกระทำผิด ย่อมเป็นยุติแล้ว ไม่มีบทบัญญัติกฎหมายใดให้อำนาจศาลอุทธรณ์ภาค 5 ในคดีขอคืนของกลางนี้ จะหยิบยกข้อเท็จจริงที่ยุติในคดีที่ถึงที่สุดแล้วมาวินิจฉัยได้อีก ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ชอบที่จะวินิจฉัยไปตามประเด็นตามคำร้องที่ผู้ร้องยกขึ้นอ้างว่าตนมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดของจำเลยในคดีดังกล่าวเท่านั้น
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมือง และริบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน บก – ๕๔๕๑ น่าน ของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน บก – ๕๔๕๑ น่าน ของกลาง ผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลย ขอให้ศาลสั่งคืนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลของกลาง และผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดของจำเลย ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่ง ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษากลับ ให้คืนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน บก – ๕๔๕๑ น่าน ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ มีอำนาจหยิบยกคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๘๘๐/๒๕๔๔ ของศาลชั้นต้น ขึ้นวินิจฉัยในปัญหาข้อกฎหมายว่า คำพิพากษาศาลชั้นต้นในส่วนที่ให้ริบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน บก – ๕๔๕๑ น่าน ในคดีดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า คดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๘๘๐/๒๕๔๔ ของศาลชั้นต้น ได้ถึงที่สุดแล้ว ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ป.อ. มาตรา ๓๖ เพียงแต่บัญญัติให้สิทธิแก่เจ้าของแท้จริงของทรัพย์ที่ถูกริบในคดีนั้น ในอันที่ขอคืนทรัพย์โดยเหตุมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด จึงคงมีประเด็นที่ศาลจะต้องไต่สวนและมีคำสั่งเฉพาะเหตุตามคำร้องที่ปรากฏเท่านั้น การที่รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน บก – ๕๔๕๑ น่าน ถูกริบโดยเหตุที่ศาลชั้นต้นในคดีดังกล่าววินิจฉัยว่าเป็นยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำผิด ย่อมเป็นยุติแล้ว ไม่มีบทบัญญัติกฎหมายใดให้อำนาจศาลอุทธรณ์ภาค ๕ ในคดีขอคืนของกลางนี้ จะหยิบยกข้อเท็จจริงที่ยุติในคดีที่ถึงที่สุดแล้วมาวินิจฉัยได้อีก ข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค ๕ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ ชอบที่จะวินิจฉัยไปตามประเด็นตามคำร้องที่ผู้ร้องยกขึ้นอ้างว่าตนมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดของจำเลยในคดีดังกล่าวเท่านั้น ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๕ ให้ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี.