คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3451/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการยืมใช้คงรูปนั้นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 643 ได้บัญญัติให้ผู้ยืมต้องรับผิดต่อผู้ให้ยืมเฉพาะแต่กรณีผู้ยืมเอาทรัพย์ที่ยืมไปใช้การอย่างอื่นนอกจากการอันเป็นปกติแก่ทรัพย์สินนั้น หรือนอกจากการอันปรากฏในสัญญา หรือเอาไปให้บุคคลภายนอกใช้สอยหรือเอาไปไว้นานกว่าที่ควรจะเอาไว้ โจทก์เป็นแต่เพียงผู้ยืมรถคันที่ถูกชนไม่ได้เป็นเจ้าของไม่ปรากฏเหตุดังกล่าวที่โจทก์จะต้องรับผิดต่อผู้ให้ยืม. และการที่รถที่โจทก์ขับได้รับความเสียหายก็มิใช่เป็นความผิดของโจทก์ฉะนั้นโจทก์ในฐานะผู้ยืมจึงไม่ต้องรับผิดต่อเจ้าของรถและแม้ว่าโจทก์จะได้ซ่อมรถคันดังกล่าวไปแล้ว โจทก์ก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะรับช่วงสิทธิของเจ้าของรถที่จะเรียกร้องให้จำเลยรับผิดได้ เพราะการรับช่วงสิทธิจะมีได้ต่อเมื่อผู้รับช่วงสิทธิมีหนี้อันจะต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้คือเจ้าของรถ เมื่อโจทก์ไม่ใช่ผู้รับช่วงสิทธิโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องให้จำเลยร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ในฐานละเมิด
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๔ ให้การปฏิเสธความผิดหลายประการรวมทั้งต่อสู้คดีว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะโจทก์ไม่ใช่เจ้าของรถคันที่ถูกชน
จำเลยที่ ๓ ขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันรับผิดชดใช้เงินค่าซ่อมรถแก่โจทก์
จำเลยที่ ๒ ที่ ๔ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ที่ ๔ ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับแต่ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์คดีนี้ไม่ได้เป็นเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียน จ.บ. ๐๙๑๐๑ ที่ถูกชน เพราะโจทก์เป็นแต่เพียงผู้ยืมเท่านั้น ในการยืมใช้คงรูปนั้นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๔๓ ได้บัญญัติให้ผู้ยืมต้องรับผิดต่อผู้ให้ยืมเฉพาะแต่ในกรณีผู้ยืมเอาทรัพย์ที่ยืมไปใช้ในการอย่างอื่นนอกจากการอันเป็นปกติแก่ทรัพย์สินนั้น หรือนอกจากการอันปรากฏในสัญญา หรือเอาไปให้บุคคลภายนอกใช้สอยหรือเอาไปไว้นานกว่าที่ควรจะเอาไว้ ซึ่งคดีนี้ไม่ปรากฏเหตุดังกล่าวเลย และการที่รถที่โจทก์ขับได้รับความเสียหายก็มิใช่เป็นความผิดของโจทก์ หากแต่เป็นความผิดของบุคคลภายนอกฉะนั้นโจทก์ในฐานะผู้ยืมจึงไม่ต้องรับผิดต่อเจ้าของทรัพย์ และแม้ว่าโจทก์จะได้ซ่อมรถคันที่โจทก์ยืมมาไปเรียบร้อยแล้วก็ตามโจทก์ไม่อยู่ในฐานะที่จะรับช่วงสิทธิของเจ้าของรถที่จะเรียกร้องให้จำเลยรับผิดได้ เพราะการรับช่วงสิทธิจะมีได้ต่อเมื่อผู้รับช่วงสิทธิมีหนี้อันจะต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้คือเจ้าของ เมื่อโจทก์ไม่ใช่ผู้รับช่วงสิทธิโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องและพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์นั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยที่ ๒ และที่ ๔ฟังขึ้น คดีนี้แม้จำเลยที่ ๑ ที่ ๓ จะไม่ได้ฎีกาขึ้นมาแต่มูลกรณีเป็นการฟ้องขอให้ชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ เป็นเรื่องอำนาจฟ้องจึงให้คำพิพากษาฉบับนี้มีผลถึงจำเลยที่ ๑ ที่ ๓ ที่มิได้ฎีกาขึ้นมาด้วย
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share