แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเพียงแต่ใช้มือทำร้ายผู้เสียหาย ผู้เสียหายมีบาดแผลช้ำบวม 2 แห่ง ไม่มีโลหิตออก แม้แพทย์ลงความเห็นว่าจะหายเป็นปกติภายใน 10 วัน ก็เป็นเพียงการคาดคะเน เพราะอาจจะหายก่อน 10 วันก็ได้ จำเลยจึงคงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 เท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มือชกต่อยทำร้ายร่างกายนางพาชื่นผู้เสียหาย 2 ทีถูกที่ปากและขมับด้านซ้าย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายถึงบาดเจ็บขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยใช้มือชกต่อยผู้เสียหาย 2 ที มีบาดแผลช้ำบวม ยังถือไม่ได้ว่าได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติลงตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยใช้มีดชกต่อยทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย 2 ที มีบาดแผลช้ำบวม โดยมีรอยแดงช้ำที่มุมปากด้านซ้ายขนาด 2×2 เซนติเมตร และรอยช้ำบวมที่บริเวณขมับด้านซ้ายขนาด 1×2 เซนติเมตร ไม่มีเลือดออก แพทย์ลงความเห็นว่าจะหายเป็นปกติภายใน 10 วัน เห็นว่า จำเลยเพียงแต่ใช้มือทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้นและบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับทั้งสองแห่งเพียงแต่ช้ำบวม ไม่มีโลหิตออกทั้งการที่แพทย์ลงความเห็นว่าจะหายเป็นปกติภายใน 10 วันนั้น ก็เป็นแต่การคาดคะเน บาดแผลดังกล่าวอาจจะหายภายในเวลาไม่ถึง 10 วันก็ได้ เมื่อพิเคราะห์ถึงการกระทำของจำเลยและบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับประกอบกันแล้ว เห็นว่าจำเลยคงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 เท่านั้น
พิพากษายืน