แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทายาทมี 3 คน แต่ทายาทที่มาฟ้องขอแบ่งมรดกมี 2 คนเท่านั้นดังนั้น ศาลย่อมพิพากษาให้โจทก์ได้ส่วนแบ่งเพียงคนละ 1 ใน 3 เท่านั้นเพราะเป็นการแบ่งให้ตามสิทธิที่โจทก์แต่ละคนควรจะได้ หาใช่เป็นการกันส่วนไว้เพื่อทายาทอื่นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1749 ไม่ อ้างฎีกาที่ 821/2491
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเฉพาะส่วนของนางซับเจ้ามรดกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ โดยการครอบครองและโดยการรับมรดก
จำเลยให้การว่า โจทก์มิได้ครอบครองแต่ฝ่ายเดียว จำเลยได้ครอบครองร่วมมาด้วย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์มีส่วนได้ที่พิพาทคนละ 1 ใน 3 ของกึ่งหนึ่งอีกกึ่งหนึ่งตกได้แก่จำเลย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่า ที่ศาลพิพากษาให้โจทก์ได้รับมรดกส่วนของนางซับคนละ 1 ใน 3 ของกึ่งหนึ่ง ไม่ชอบ เพราะแม้จะมีนายสายหยุดเป็นทายาทอีกคนหนึ่ง ก็มิได้เข้ามาเกี่ยวข้องขอรับส่วนแบ่งอย่างใด และฎีกาข้อเท็จจริงอื่นอีก
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่ามีโจทก์ทั้งสองและนายสายหยุด 3 คนเท่านั้นที่เป็นผู้รับมรดกนางซับ แต่โจทก์ 2 คน เท่านั้นที่ฟ้องขอแบ่งมรดกจึงเห็นว่าที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งให้โจทก์คนละ 1 ใน 3 ชอบแล้ว เพราะเป็นการแบ่งให้ตามสิทธิที่โจทก์แต่ละคนควรจะได้ หาใช่เป็นการกันส่วนไว้เพื่อทายาทอื่นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1749 ไม่ อ้างฎีกาที่ 821/2491 วินิจฉัยข้อเท็จจริงแล้วพิพากษายืน
