แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การบรรยายฟ้องที่กล่าวหาว่ากระทำผิดฐานเบิกความเท็จโดยกล่าวว่าจำเลยได้สาบานตนนำความซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จมาเบิกความในการพิจารณาของศาลในข้อสำคัญ ซึ่งเป็นการครบองค์ควมผิดฐานเบิกความเท็จแล้ว และได้บรรยายข้อความที่จำเลยเบิกความซึ่งอ้างว่าเป็นความเท็จตลอดจนยืนยันว่าความจริงเป็นอย่างไร แม้ฟ้องจะไม่ได้ระบุว่าคดีที่จำเลยเบิกความเท็จเป็นเรื่องอะไร แต่ได้ระบุหมายเลขคดี(ที่จำเลยได้เบิกความอันเป็นเท็จ) ไว้แล้ว ดังนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 158
ย่อยาว
คดีได้ความตามโจทย์ฟ้องและจำเลยรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ ๖ ก.ค. ๒๔๙๙ เวลากลางวันจำเลยได้สาบานตนแล้วนำเอาความซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จมาเบิกความต่อศาลอาญาในการพิจารณาคดีของศาลอาญาในข้อสำคัญในคดีของศาลอาญาคดีดำที่ ๒๔๔/๒๔๙๙ คดีแดงที่ ๑๓๙๙/๒๔๙๙ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. ๑๕๕,๑๕๖ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ ๓๗/๒๔๗๗ ม.๔ ประมวลอาญา ม.๑๗๗ จำคุก ๑ ปี ลดตาม ม.๗๘ กึ่งหนึ่งคงจำคุก ๖ เดือน
จำเลยอุทธรณ์ขอลดโทษศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามฟ้องและคำร้องของจำเลยฟังได้เพียงว่า จำเลยเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาล แต่โจทก์ มิได้บรรยายว่าคดีอาญาที่จำเลยเบิกความเท็จนั้นเป็นเรื่องอะไรและมีข้อกล่าวหากันอย่างไร แม้อ่านตามฟ้องตลอดแล้วก็ไม่อาจรู้ได้ว่าข้อความตามที่จำเลยเบิกความเป็นข้อสำคัญแห่งคดีอย่างไร ฟ้องของโจทก์จึงไม่มีรายละเอียดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตาม ป.วิ.อาญา มาตรา ๑๕๘ แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพก็ลงโทษฐานเบิกความเท็จไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดฐานเบิกความเท็จ โดยกล่าวว่าจำเลยได้สาบานตนนำความซึ่งตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จมาเบิกความในการพิจารณาของศาลในข้อสำคัญ ซึ่งนับว่าเป็นการครบองค์ของความผิดฐานเบิกความเท็จแล้ว และได้บรรยายข้อความที่จำเลยเบิกความซึ่งอ้างว่าเป็นความเท็จตลอดจนยืนยันว่าความจริงเป็นอย่างไร แม้ฟ้องจะไม่ได้ระบุว่าคดีที่จำเลยเบิกความเท็จเป็นเรื่องอะไร แต่ก็ได้ระบุหมายเลขคดีไว้แล้ว เห็นว่าฟ้องคดีนี้ได้กล่าวถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา ๑๕๘
พิพากษากลับลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้น