คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3427/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลสืบพยานจำเลยได้เพียงตอบคำซักถามของจำเลย แล้วเลื่อนคดี พยานจำเลยถึงแก่กรรมก่อนถึงวันนัด ทำให้โจทก์ไม่ได้ถามค้าน ไม่ทำให้คำเบิกความของพยานจำเลยรับฟังไม่ได้ กรณีเป็นเรื่องการชั่งน้ำหนักคำพยานเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินป่าจากเนื้อที่ ๔ ไร่ ๒ งาน โจทก์ได้มาโดยบิดายกให้ และครอบครองทำประโยชน์ตลอดมาเป็นเวลากว่า ๕๐ ปีแล้ว ต่อมาจำเลยไปแจ้งการครอบครองที่ดินของโจทก์ โจทก์ไปคัดค้านต่อเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ เจ้าพนักงานที่ดินเปรียบเทียบแล้วตกลงกันไม่ได้ ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการได้มีคำสั่งว่า จำเลยมีสิทธิเหนือกว่าโจทก์ ซึ่งไม่ถูกต้องขอให้พิพากษาว่า ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ให้จำเลยโอนเปลี่ยนชื่อมาเป็นของโจทก์ มิฉะนั้นให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทนจำเลย ขอให้สั่งเพิกถอนการรังวัดออกโฉนดที่ดินของจำเลยตามหนังสือแบบแจ้งการครอบครองที่ดินข้างต้นนั้น และห้ามจำเลยเกี่ยวข้องอีกต่อไป
จำเลยให้การว่า โจทก์นำที่ดินพิพาทไปประกันหนี้เงินกู้ไว้แล้วไม่มีเงินชำระหนี้ โจทก์จึงให้จำเลยนำเงินไปชำระหนี้แทนแล้วยกที่ดินพิพาทให้จำเลยครอบครองทำนาและทำสวนจากในที่ดินพิพาทตลอดมา โดยไม่มีผู้ใดโต้แย้งคัดค้าน ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นสั่งให้นางสาวประชุม บุญรักษ์ เข้าเป็นคู่ความแทนนางละม้าย บุญรักษ์ จำเลย ผู้มรณะตามคำร้องของโจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาทำนองว่า นางละม้าย บุญรักษ์ จำเลยเบิกความไปโดยทนายโจทก์ยังไม่ได้ถามค้าน นางละม้ายก็ถึงแก่กรรมเสียก่อน คำเบิกความดังกล่าวจึงรับฟังไม่ได้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีเช่นนี้เป็นเรื่องการชั่งน้ำหนักคำพยานของนางละม้ายเท่านั้น ไม่ทำให้คำเบิกความของนางละม้ายรับฟังไม่ได้แต่อย่างใด
พิพากษายืน

Share