คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3750/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยที่ลงชื่อโดยทนายจำเลยซึ่งมิได้ระบุให้มีอำนาจขอให้พิจารณาคดีใหม่ไว้ในใบแต่งทนายตาม ป.วิ.พ. มาตรา 62 ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ศาลจะพึงรับไว้พิจารณา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้เงินกู้ยืมจำนวน ๕๕,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันกู้ถึงวันฟ้องเป็นเงิน ๑,๗๑๕ บาท และดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีโจทก์ไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้จำเลยชำระต้นเงินกู้พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราตามฟ้องนับแต่วันกู้จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่อ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา เพราะไม่ทราบว่าถูกฟ้องและไม่ทราบวันนัดพิจารณา จำเลยมิได้รับเงินตามหนังสือสัญญากู้ที่โจทก์นำมาฟ้อง หากมีโอกาสนำหลักฐานมาพิสูจน์จำเลยก็จะชนะคดี
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วฟังว่า จำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาจำเลยถึงแก่ความตาย ศาลฎีกาอนุญาตให้นายอู๊ด เจียมใจ บุตรจำเลยเข้าเป็นคู่ความแทน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฏว่าคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลย ลงชื่อโดยนายวีระ ครุฑขุนทด ทนายความแต่ตามใบแต่งทนายความฉบับลงวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๒๙ จำเลยได้ระบุแต่งตั้งให้นายวีระ ครุฑขุนทด ทนายจำเลยมีอำนาจใช้สิทธิในการขอให้พิจารณาคดีใหม่ ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๖๒ แต่อย่างใดไม่ คำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยที่ลงขื่อโดยนายวีระครุธขุนทด จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ชอบที่ศาลจะพึงรับคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ของจำเลยไว้พิจารณา ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำสั่งและคำพิพากษาให้ยกคำร้องขอพิจารณาใหม่ของจำเลยนั้น ศาลฎีกาเห็นด้วยในผล พิพากษายืน

Share