แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ผู้ร้องจดทะเบียนยกที่ดินให้เป็นถนนสาธารณะแล้ว แม้ต่อมาทางราชการไม่ใช้ที่ดินนั้นทำถนน ผู้ร้องก็จะมาใช้สิทธิทางศาลขอคืนที่ดินโดยอ้างว่ายังคงครอบครองที่ดินอยู่ และขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวไม่ได้ เพราะเป็นกรณีที่ไม่มีบทบัญญัติกฎหมายใดสนับสนุนหรืออนุญาตให้ผู้ร้องใช้สิทธิเช่นว่านี้ได้
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงว่า ที่ดินเนื้อที่ 8ไร่ 3 งาน 48 2/3 ตารางวา ซึ่งเป็นที่ดินบางส่วนของโฉนดเลขที่ 5230เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องโดยการครอบครอง เพื่อไปดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน หรือเพื่อเป็นหลักฐานในการขอออกโฉนดที่ดินใหม่ต่อไป ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีไม่ใช่เรื่องที่จะมาใช้สิทธิทางศาล ให้ยกคำร้องผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงได้ความตามคำร้องว่า ที่ดินที่ผู้ร้องขอให้ศาลสั่งแสดงกรรมสิทธิ์เป็นที่ดินที่ผู้ร้องได้จดทะเบียนยกให้เป็นถนนสาธารณประโยชน์แยกออกจากโฉนดเลขที่ 5230 ของผู้ร้องไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2507 แต่ผู้ร้องอ้างว่ายังคงครอบครองที่ดินดังกล่าวตลอดมา และทางราชการไม่ใช้ที่ดินนั้นทำถนนสาธารณะและคืนที่ดินดังกล่าวให้แก่ผู้ร้อง แต่ไม่สามารถดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนได้ ผู้ร้องจึงมาร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าว เห็นว่า กรณีของผู้ร้องที่ขอใช้สิทธิทางศาลขอคืนที่ดินที่ยกให้เป็นถนนสาธารณประโยชน์แล้วทางราชการไม่ทำถนนและไม่สามารถดำเนินการจดทะเบียนคืนที่ดินให้ได้จึงมาขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงกรรมสิทธิ์นั้น เป็นกรณีที่ไม่มีบทบัญญัติกฎหมายใดสนับสนุนหรืออนุญาตให้ผู้ร้องใช้สิทธิเช่นว่านี้ได้ ผู้ร้องจึงจะร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงกรรมสิทธิ์ไม่ได้”
พิพากษายืน