คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2015/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ซึ่งเป็นอาวุธที่ร้ายแรงยิงผู้เสียหายในระยะ 4 – 5 เมตร ถูกผู้เสียหายที่ตะโพกซ้าย แสดงว่าจำเลยเจตนายิงไปที่ลำตัวของผู้เสียหายซึ่งเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย เหตุที่กระสุนปืนถูกที่ตะโพกซ้าย เชื่อได้ว่าเพราะจำเลยยิงไม่แม่นยำ การยิงของจำเลยอยู่ในลักษณะที่จะทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ จึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
ขณะที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายนั้น ผู้เสียหายกับพวกกำลังกลุ้มรุมทำร้ายน. การยิงของจำเลยจึงเป็นการป้องกัน น.ให้พ้นภยันตรายจากการถูกทำร้าย แต่โดยเหตุที่ผู้เสียหายไม่มีอาวุธอะไร การยิงของจำเลยจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๑๘ เวลากลางวัน จำเลยได้บังอาจใช้ปืนขนาด .๓๘ ยิงนายจำลอง สมัครไทย ๑ นัด โดยเจตนาฆ่า กระสุนปืนถูกนายจำลองที่ตะโพกซ้ายทะลุหน้าท้องด้านขวา แต่แพทย์ได้ทำการรักษาไว้ทัน นายจำลองจึงไม่ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นจำคุก ๑๒ ปี คำรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้ ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๘ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยเจตนาทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย เนื่องจากผู้เสียหายกับพวกได้รุมทำร้ายนายนิกร การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันเกินกว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ ประกอบด้วยมาตรา ๖๙ พิพากษาแก้ให้จำคุก ๑ ปี ลด ๑ ใน ๓ เพราะรับชั้นสอบสวนคงเหลือจำคุกแปดเดือน จำเลยเป็นนักศึกษา เพื่ออนาคตในการศึกษาให้รอลงโทษจำเลยไว้สามปี
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วเห็นว่า จำเลยใช้ปืนซึ่งเป็นอาวุธที่ร้ายแรงยิงผู้เสียหายในระยะใกล้ ห่างผู้เสียหายประมาณ ๔ – ๕ เมตร ส่อเจตนาว่าจำเลยยิงไปที่ลำตัวของผู้เสียหายซึ่งเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย เหตุที่กระสุนปืนไปถูกตะโพกซ้าย เชื่อได้ว่าเป็นเพราะจำเลยยิงไม่แม่นยำกระสุนปืนจึงพลาดเป้าหมายที่จำเลยเจตนายิง การยิงของจำเลยจึงอยู่ในลักษณะที่อาจจะทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ จึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายดังที่โจทก์ฎีกา เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ขณะที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายนั้น ผู้เสียหายกับพวกกำลังกลุ้มรุมทำร้ายนายนิกร การยิงของจำเลยจึงเป็นการป้องกันนายนิกรให้พันภยันตรายจากการถูกทำร้าย แต่โดยเหตุที่ผู้เสียหายไม่มีอาวุธอะไร การยิงของจำเลยจึงเป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ ประกอบด้วยมาตรา ๖๙ จำคุกสามปี คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของศาล คดีมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามมาตรา ๗๘ คงจำคุก ๒ ปี จำเลยเป็นนักศึกษาปีที่สามไม่เคยกระทำผิดมาก่อน เพื่ออนาคตในการศึกษาของจำเลย จึงให้รอการลงโทษ จำเลยไว้มีกำหนดสามปี.

Share