แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
สินค้า 3 รายการ คือ เครื่องอัดก๊าซแอมโมเนีย หรือคอมเพรสเซอร์อุปกรณ์ประกอบเครื่องทำความเย็นหรือเพลทปรีสเซอร์ และเครื่องปั๊มน้ำยาแอมโมเนีย ยังไม่อาจถือได้ว่าเป็นเครื่องทำความเย็นที่สมบูรณ์แล้ว เพราะคงมีส่วนสำคัญส่วนเดียวคือ คอมเพรสเซอร์ ส่วนคอนเดนเซอร์ และอีวาปอเรเตอร์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอีก 2 อย่างนั้นโจทก์มิได้นำเข้ามาด้วย จึงไม่ใช่สินค้าที่สมบูรณ์แล้ว ดังนั้นจำเลยจึงไม่อาจเรียกเก็บอากรในพิกัดอัตราอากรขาเข้าประเภทที่ 8418.69(1)เครื่องทำความเย็นที่สมบูรณ์แล้วได้ โจทก์ชอบที่จะเสียอากรตามพิกัดอัตราอากรขาเข้าประเภทที่ 8414.30(1) ที่ 8418.99(2) และที่8413.81 ตามลำดับเท่านั้น.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์สั่งซื้อสินค้าและนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยยื่นใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้า เพื่อเสียภาษีอากรและนำของออกจากอารักขาของกรมศุลกากรตามระเบียบ แบ่งรายการสินค้าออกเป็น 10 รายการสินค้ารายการที่ 1 เครื่องอัดก๊าซแอมโมเนียสำแดงรายการเสียภาษีในพิกัดประเภทที่ 8414.30 (1) อัตราอากรร้อยละ30 ของราคา รายการที่ 2 อุปกรณ์ประกอบเครื่องทำความเย็น พิกัดประเภทที่ 8418.99 (2) อัตราอากรร้อยละ 35 ของราคา รายการที่ 3เครื่องปั๊มน้ำยาแอมโมเนีย พิกัดประเภทที่ 8413.01 (ที่ถูก 8413.81)อัตราอากรร้อยละ 20 ของราคา รายการที่ 4 วาล์วลดความดันของก๊าซพิกัดประเภทที่ 8481.10 (5) อัตราอากรร้อยละ 20 ของราคา รายการที่ 5วาล์วปิดเปิดพิกัดประเภทที่ 8481.40 (5) อัตราอากรร้อยละ 20 ของราคารายการที่ 6 วาล์วนิรภัย พิกัดประเภทที่ 8481.40 (5) อัตราอากรร้อยละ 20 ของราคา รายการที่ 7 เครื่องกรองน้ำยา พิกัดประเภทที่8421.99 อัตราอากรร้อยละ 35 ของราคารายการที่ 8 เครื่องควบคุมความดันของก๊าซ พิกัดประเภทที่ 9026.20 อัตราอากรร้อยละ 35 ของราคารายการที่ 9 สวิตซ์พิกัดประเภทที่ 8536.50 (2) อัตราอากรร้อยละ35 ของราคา และรายการที่ 10 เครื่องวัดความดันของก๊าซแอมโมเนียพิกัดประเภทที่ 9026.20 อัตราอากรร้อยละ 35 ของราคา รวมเป็นเงินค่าภาษีอากรที่โจทก์พึงชำระตามกฎหมายทั้งสิ้น 1,563,028 บาทพนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยรับและตรวจสอบใบขนสินค้าของโจทก์แล้วให้โจทก์แก้ไขสำแดงพิกัดอัตราศุลกากรเฉพาะรายการที่ 1 ถึง 3เป็นพิกัดประเภทที่ 8418.69 (1) อัตราอากรร้อยละ 60 ของราคาโจทก์ต้องแก้ไขการสำแดงพิกัดอัตราศุลกากรตามคำสั่งของเจ้าพนักงานจำเลย เพื่อที่จะผ่านพิธีการศุลกากร ให้พนักงานศุลกากรรับรองใบขนสินค้าและเสียภาษีนำของออกจากกรมศุลกากร แต่โจทก์ไม่เห็นด้วยจึงโต้แย้งไว้ที่ใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้า การที่เจ้าพนักงานจำเลยให้โจทก์แก้ไขการสำแดงพิกัดอัตราศุลกากรทำให้โจทก์ต้องเสียเงินค่าภาษีอากรเพิ่มขึ้น 1,045,662 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,180,234 บาท ตามบัญชีแนบท้ายพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 สินค้าที่โจทก์นำเข้ามาไม่ใช่เครื่องทำความเย็น อันจักต้องจัดเข้าในพิกัดประเภทที่ 8418.69 (1)อัตราอากรร้อยละ 60 ของราคาสินค้า โจทก์ได้โต้แย้งไว้ก่อนชำระภาษีอากรเพิ่มเพื่อนำของออกจากกรมศุลกากร และได้ทำหนังสืออุทธรณ์โต้แย้งต่อจำเลยแล้ว แต่จำเลยไม่ยอม ขอให้ศาลพิพากษาว่าสินค้าโจทก์ตามรายการที่ 1, 2 และ 3 เป็นของตามพิกัดประเภทที่ 8414.30 (1)8418.99 (2) และ 8415.01 ตามลำดับ มิใช่จัดอยู่ในพิกัด 8418.69 (1)กับคืนเงินแก่โจทก์ 1,045,662 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์ได้สำแดงชนิดของสินค้าประเภทพิกัด และอัตราศุลกากรสินค้ารายการที่ 1, 2 และ 3 ในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าไม่ถูกต้องตามกฎหมายและความเป็นจริง กล่าวคือสินค้ารายการที่ 1, 2 และ 3 เป็นเครื่องทำความเย็นที่ใช้ในการอุตสาหกรรมที่โจทก์นำเข้าโดยถอดแยกออกจากกันเพื่อความสะดวกในการบรรจุ การขนถ่าย สินค้าแต่ละรายการมีสภาพเป็นชุด ทั้งเป็นชุดที่ครบสมบูรณ์หรือสำเร็จแล้ว สินค้าทั้งสามรายการสามารถนำมาประกอบเข้าด้วยกันเป็นเครื่องทำความเย็นได้ทันที จึงถือว่าสินค้าทั้งสามรายการเป็นเครื่องทำความเย็น จัดเข้าประเภทพิกัดที่ 8418.69 (1)อัตราอากรร้อยละ 60 ของราคาการที่โจทก์แยกสำแดงว่า สินค้ารายการที่ 1 เป็นเครื่องอัดก๊าซใช้ในอุตสาหกรรมห้องเย็น พิกัดประเภทที่8414.30 (1) อัตราอากรร้อยละ 30 ของราคาสินค้ารายการที่ 2 เป็นอุปกรณ์เครื่องทำความเย็น พิกัดประเภทที่ 8418.99 (2) อัตราอากรร้อยละ 35 ของราคา และสินค้ารายการที่ 3 เป็นเครื่องปั๊มน้ำยาแอมโมเนียพิกัดประเภทที่ 8413.81 อัตราอากรร้อยละ 20 ของราคาจึงไม่ถูกต้องตามกฎหมายเจ้าพนักงานของจำเลยมีอำนาจแจ้งให้โจทก์แก้ไขการสำแดงและประเมินอากรตามประเภทพิกัดที่ถูกต้องเสียใหม่ให้ถูกต้อง ตามพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 มาตรา 6โจทก์จึงไม่มีสิทธิและอำนาจที่จะเรียกเงินค่าภาษีอากรจำนวน1,045,662 บาท พร้อมดอกเบี้ย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาว่า สินค้ารายการที่ 1 จัดอยู่ในประเภทพิกัดที่ 8414.30 (1) อัตราอากรร้อยละ 30 ของราคา สินค้ารายการที่ 2 จัดอยู่ในประเภทพิกัดที่ 8418.99 (2) อัตราอากรร้อยละ35 ของราคา และสินค้าของรายการที่ 3 จัดอยู่ในประเภทพิกัดที่8413.81 อัตราอากรร้อยละ 20 ของราคา ให้จำเลยคืนเงินเฉพาะค่าอากรขาเข้าที่จำเลยเรียกไว้เกินแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จ โดยยอดอากรขาเข้าที่ต้องคืนนั้นต้องไม่เกินกว่า 1,045,662 บาท คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า “ประเด็นจะต้องวินิจฉัยคือ การประเมินของพนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยชอบหรือไม่ ในประเด็นดังกล่าวมีปัญหาว่าสินค้า 3 รายการดังกล่าวจัดอยู่ในพิกัดประเภทใดโจทก์นำสืบว่ารายการที่ 1 เครื่องอัดก๊าซแอมโมเนียหรือคอมเพรสเซอร์อยู่ในพิกัดประเภทที่ 8414.31 (1) รายการที่ 2 อุปกรณ์ประกอบเครื่องทำความเย็นหรือเพลทฟรีสเซอร์ อยู่ในพิกัดประเภท 8418.99 (2)และรายการที่ 3 ปั๊มอยู่ในพิกัดประเภท 8413.81 พิกัดทั้ง 3 ประเภทกำหนดไว้สำหรับสินค้าแต่ละอย่างดังกล่าวโดยเฉพาะอยู่แล้ว โจทก์จึงต้องเสียอากรในพิกัดประเภทดังกล่าว แต่จำเลยนำสืบว่าสินค้าทั้ง 3 รายการมีสภาพเป็นชุดที่ครบสมบรูณ์แล้ว จึงเรียกเก็บอากรรวมกันในอัตราที่ถือเสมือนว่าเป็นสิ่งประกอบมาสมบูรณ์แล้ว ในพิกัดประเภทที่ 8418.69 (1) ปัญหาที่จะต้องหยิบยกขึ้นวินิจฉัยคือสินค้าทั้ง 3 รายการ จัดอยู่ในพิกัดประเภทที่ 8418.69 (1)เครื่องทำความเย็นอันจะต้องเสียอากรร้อยละ 60 ของราคาหรือไม่จำเลยมีพยานมาเบิกความ 3 ปากคือ นายสุวิทย์ อบรมสุข นายอลงกฎนิวุฒสม และนายสมยศ ไม้หลากสี พยาน 2 ปากแรกซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้ประเมินอากรเบิกความว่า สินค้าทั้งสามรายการสามารถนำมาประกอบเข้าด้วยกันเป็นเครื่องทำความเย็นครบชุดสมบูรณ์ แต่นายสมยศเบิกความว่าอุปกรณ์สำคัญของเครื่องทำความเย็นโดยทั่วไปจะต้องมีคอมเพรสเซอร์คอนเดนเซอร์ และอีวาปอเรเตอร์ โดยคอมเพรสเซอร์ จะเป็นตัวปั๋มน้ำยาที่อยู่ในสภาพของก๊าซเข้าไปยังตัวคอนเดนเซอร์ ซึ่งจะทำให้น้ำยาเปลี่ยนสภาพจากก๊าซเป็นของเหลว แล้วจะมีตั๋วปั๋มสูบแอมโมเนียเข้าไปยังเพลทฟรีสเซอร์ ซึ่งเป็นตัวทำความเย็นดูดเอาความร้อนจากวัตถุที่ต้องการแช่ให้แข็ง เมื่อเพลทฟรีสเซอร์รับความร้อน น้ำยาที่อยู่ในระบบนั้นได้รับความร้อน ก็จะถูกดูดกลับไปที่คอมเพรสเซอร์เพื่อปั๊มน้ำยากลับเข้าไปในคอนเดนเซอร์ใหม่อีกเป็นวงจร ส่วนอีวาปอเรเตอร์ซึ่งพยานเบิกความว่าเป็นส่วนสำคัญ แต่พยานมิได้เบิกความว่าทำหน้าที่อย่างไร อย่างไรก็ตาม พยานปากนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญของจำเลยเกี่ยวกับการวินิจฉัยปัญหาประเภทของสินค้าพิพาทโดยพยานสำเร็จการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า สาขาวิศวกรรมอุตสาหกรรมและปริญญาโทจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 2527และเข้ารับราชการกับจำเลยตลอดมา คำเบิกความของพยานดังกล่าวย่อมมีน้ำหนักกว่าพยาน 2 ปากแรก ซึ่งเป็นเพียงเจ้าพนักงานทำหน้าที่ประเมินอากรเท่านั้น จึงต้องฟังพยานปากนี้เป็นหลัก ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าสินค้า 3 รายการ ยังไม่อาจถือได้ว่าเป็นเครื่องทำความเย็นที่สมบูรณ์แล้ว เพราะคงมีส่วนสำคัญอีก 2 อย่างนั้น โจทก์มิได้นำเข้ามาด้วย จึงไม่ใช่สินค้าที่สมบูรณ์แล้ว ดังนั้น จำเลยจึงไม่อาจเรียกเก็บอากร ในพิกัดอัตราอากรขาเข้า ประเภทที่ 8418.69(1) เครื่องทำความเย็นที่สมบูรณ์แล้วได้ โจทก์ชอบที่จะเสียอากรตามพิกัดอัตราอากรขาเข้าประเภทที่กำหนดไว้เฉพาะสินค้าแต่ละประเภทคือ ประเภทสินค้า 8414.30 (1) ที่ 8418.99 (2) และที่ 8413.81ตามลำดับเท่านั้น”
พิพากษายืน.