คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3408/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาเช่าซื้อระบุว่า การชำระค่าเช่าซื้อตรงตามกำหนดเวลาเป็นสาระสำคัญของสัญญา ถ้าผู้เช่าซื้อผิดนัดค้างชำระค่าเช่าซื้อสองงวดติดต่อกันหรือผิดนัดค้างชำระค่าเช่าซื้อตั้งแต่สองงวดขึ้นไป ให้สัญญาเช่าซื้อเป็นอันยกเลิกเพิกถอนทันที แต่ในทางปฏิบัติเมื่อจำเลยผู้เช่าซื้อมิได้ชำระค่าเช่าซื้อให้โจทก์ตรงตามกำหนดที่ระบุไว้ในสัญญาตลอดมา โจทก์ก็ยอมรับชำระโดยมิได้อิดเอื้อน จึงเห็นได้ว่าโจทก์และจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะถือเอากำหนดเวลาตามสัญญาเช่าซื้อเป็นสาระสำคัญหากโจทก์ประสงค์จะเลิกสัญญาเช่าซื้อกับจำเลย โจทก์ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387 กล่าวคือต้องบอกกล่าวกำหนดระยะเวลาพอสมควรให้จำเลยชำระค่าเช่าซื้องวดที่ติดค้างอยู่ต่อเมื่อจำเลยไม่ชำระค่าเช่าซื้อภายในระยะเวลาที่กำหนดนั้นโจทก์จึงจะบอกเลิกสัญญาได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายตามสัญญาเช่าซื้อจำนวน 150,000 บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 46,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาว่า การที่จำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าเช่าซื้อตั้งแต่งวดประจำวันที่ 5 มีนาคม 2526 เป็นต้นมา ถือได้ว่าสัญญาเช่าซื้อเป็นอันเลิก โดยโจทก์ไม่จำต้องบอกเลิกสัญญาอีกนั้น เห็นว่าแม้สัญญาเช่าซื้อเอกสารหมาย จ.4 ข้อ 12ระบุว่า การชำระค่าเช่าซื้อตรงตามกำหนดเวลาเป็นสาระสำคัญของสัญญานี้ ถ้าผู้เช่าซื้อผิดนัดค้างชำระค่าเช่าซื้อสองงวดติดต่อกัน หรือผิดนัดค้างชำระค่าเช่าซื้อตั้งแต่สองงวดขึ้นไปให้สัญญาเช่าซื้อฉบับนี้เป็นอันยกเลิกเพิกถอนทันทีก็ดี แต่ทางปฏิบัติตามความเป็นจริงนั้น จำเลยที่ 1 มิได้ชำระค่าเช่าซื้อให้โจทก์ตรงตามกำหนดภายในวันที่ 5 ของเดือนทุกเดือนตามที่ระบุไว้ในสัญญาเช่าซื้อตลอดมา ปรากฏว่าโจทก์ยอมรับชำระค่าเช่าซื้อจากจำเลยที่ 1 โดยมิได้อิดเอื้อนทุกครั้ง จึงเห็นได้ว่าโจทก์และจำเลยที่ 1 มิได้มีเจตนาที่จะถือเอากำหนดเวลาตามสัญญาเช่าซื้อเป็นสาระสำคัญดังสัญญาเช่าซื้อกำหนดไว้ ดังนั้น หากโจทก์ประสงค์จะเลิกสัญญาเช่าซื้อกับจำเลยโจทก์ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387 กล่าวคือ ต้องบอกกล่าวกำหนดระยะเวลาพอสมควรให้จำเลยชำระค่าเช่าซื้องวดที่ติดค้างอยู่ ต่อเมื่อจำเลยไม่ชำระค่าเช่าซื้อภายในระยะเวลาที่กำหนดนั้น โจทก์จึงจะบอกเลิกสัญญาได้ ดังนั้น การที่โจทก์มิได้บอกกล่าวให้จำเลยชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระแก่โจทก์จะถือว่าจำเลยผิดสัญญายังไม่ได้ โจทก์จึงฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสองไม่ได้ ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share