คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3403/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองประกอบอาชีพรับราชการ มีเงินเดือนรวมกันเดือนละ14,780 บาท แต่เป็นหนี้โจทก์เพียง 60,000 บาทเศษ เป็นจำนวนไม่มากไม่ปรากฏว่ามีหนี้อื่นอีก หลังจากพ้นกำหนดตามคำบังคับของศาลจังหวัดชัยนาทเพียง 10 กว่าวัน โจทก์ก็ฟ้องขอให้ล้มละลายทันที ควรให้เวลาแก่จำเลยทั้งสองในการรวบรวมเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์ คดีมีเหตุที่ไม่ควรให้จำเลยทั้งสองล้มละลาย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2531 ศาลจังหวัดชัยนาทพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน 66,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียมแก่โจทก์จำเลยทั้งสองทราบคำบังคับแล้วเพิกเฉยจำเลยทั้งสองเป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัว ขอให้พิพากษาให้จำเลยทั้งสองเป็นบุคคลล้มละลาย
จำเลยทั้งสองให้การว่าไม่มีหนี้รายอื่น จำเลยทั้งสองมีทรัพย์สินพอที่จะชำระหนี้ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสองต่างก็รับราชการ มีเงินเดือนรวมกันเดือนละ 14,780 บาท แต่เป็นหนี้โจทก์เพียง 60,000 บาทเศษเป็นจำนวนไม่มาก ไม่ปรากฎว่ามีหนี้อื่นอีกหลังจากพ้นกำหนดตามคำบังคับของศาลจังหวัดชัยนาท ใน คดีดังกล่าวเพียง 10 กว่าวันโจทก์ก็ฟ้องล้มละลายเป็นคดี นี้ทันที ควรให้เวลาแก่จำเลยทั้งสองในการรวบรวมเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์ คดีมีเหตุที่ไม่ควรให้จำเลยทั้งสองล้มละลาย ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน.

Share