คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 340/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้ว่าจ้างให้โจทก์ซ่อมรถให้จำเลย โจทก์ซ่อมรถไม่ดี รถจึงวิ่งได้เร็วเพียง 30 ไมล์เป็นอย่างสูง เวลาโจทก์ส่งมอบรถ จำเลยรับไปโดยอิดเอื้อน และบ่นว่าทำไมจะทำให้รถวิ่งเร็วกว่านี้ไม่ได้ ดังนี้ โจทก์จึงไม่พ้นจากความรับผิดตามมาตรา 598 ป.ม.แพ่งฯ
การที่โจทก์ผู้ซ่อมรับรองว่าถ้ามีสิ่งชำรุดบกพร่องต่อไปอีก 3 เดือน ผู้ซ่อมจะซ่อมให้ ซึ่งหมายความว่าเมื่อซ่อมเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว หากในระยะเวลานั้นมีอะไรชำรุดเกิดขึ้นใหม่ ผู้ซ่อมรับซ่อมให้อีก ไม่หมายความโจทก์ผู้ซ่อม ซ่อมไม่ดี จำเลยผู้ว่าจ้างจะต้องนำกลับมาให้ซ่อมใหม่ ฉะนั้นการที่จำเลยไม่นำกลับมาให้โจทก์ซ่อมจึงไม่ใช่ข้อแก้ตัวของโจทก์
โจทก์ซ่อมรถให้จำเลยไม่เรียบร้อยตามสัญญา จำเลยต้องไปจ้างที่อื่นซ่อมใหม่ ไม่ปรากฎว่าการแก้เครื่องรถนั้นโจทก์ได้แก้อะไรไปบ้างที่นับว่าเรียบร้อย จำเลยไม่ต้องไปแก้ใหม่ และค่าแก้เครื่องที่นับว่าเรียบร้อยนั้นเป็นเงินเท่าใดไม่ปรากฎ ปัญหาว่าควรจะให้จำเลยชำระค่าซ่อมแก่โจทก์บ้างหรือไม่ จึงไม่เกิดขึ้น เพราะถ้าเห็นว่าควรให้ก็ไม่สามารถคำนวณได้ อนึ่งโจทก์ไม่ได้ซ่อมแต่เครื่อง ซ่อมตัวถังและอื่น ๆ ด้วย เหล่านี้เป็นมูลค่าเท่าใดไม่ปรากฎ ศาลฎีกาจึงไม่ให้จำเลยชำระค่าซ่อมเหล่านี้แก่โจทก์ แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์จะว่ากล่าวในข้อเหล่านี้ต่อไป.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์ซ่อมรถยนต์ของจำเลย ขอให้จำเลยชำระเงินค่าจ้างซ่อมรถยนตร์ และค่าสิ่งของรวมเป็นเงิน ๕,๔๑๐ บาท จำเลยให้การว่า นอกจากสัญญาซ่อมรถแล้ว โจทก์ยังได้ทำบันทึกรับรองจะทำการแก้ไขทุกอย่างตามความต้องการของจำเลยจนรถวิ่งได้เรียบร้อยทีเดียว และรับรองต่อสิ่งชำรุดบกพร่องไปอีก ๓ เดือนด้วย โจทก์ส่งมอบรถช้าเกินสัญญาถึง ๒๘ วัน ในที่สุดหมดความสามารถทำให้เรียบร้อยที่เกียร์ได้ คือให้รถเดินเร็วกว่า ๓๐ ไมล์ต่อชั่วโมงไม่ได้ โจทก์ก็มอบรถให้จำเลย จำเลยจึงรับรถมา ให้ช่างอื่นซ่อมจนเดินเร็วได้เป็นปกติ ถึง ๔๐ ไมล์ต่อชั่วโมง โจทก์ทำไม่ถูกต้องรายการและบกพร่องหลายอย่าง ซึ่งจำเลยไม่สามารถรู้ได้ในเวลารับมอบรถ โจทก์หมดสิทธิ์ฟ้องเรียกค่าจ้างจากจำเลย ที่โจทก์ฟ้องเกินจากสัญญา ๓๑๐ บาทนั้น จำเลยก็ขอปฏิเสธ หากมีจริง ก็เป็นการใช้จ่ายในวิถีทางของการซ่อมรถตามสัญญาจะเรียกร้องไม่ได้ ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยได้รับมอบรถโดยไม่มีข้อแก้อย่างไร ตามเอกสารหมาย ๖ โจทก์ยังยินดีซ่อมรถให้วิ่งเรียบร้อย และรับรองในสิ่งชำรุดบกพร่องต่อไปอีก ๓ เดือน การที่จำเลยนำรถไปให้คนอื่นซ่อมในระยะที่โจทก์รับรอง ทำให้พ้นความรับผิดของโจทก์ ส่วนที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าน้ำมันด้วยนั้น ศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นของที่ต้องใช้ในการรับจ้าง จะเรียกเอามิได้ พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าซ่อมรถยนตร์กับค่าข้อเหวี่ยง รวม ๕๓๐๐ บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า โจทก์หาได้ซ่อมรถให้ดีและเรียบร้อยดังที่โจทก์ได้สัญญาและรับรองไว้กับจำเลยไม่ รถวิ่งได้เร็วเพียง ๓๐ ไมล์เป็นอย่างสูง เวลาโจทก์ส่งมอบรถจำเลยก็รับไปโดยอิดเอื้อน ดังนี้โจทก์ไม่พ้นความรับผิดตามมาตรา ๕๙๘ ป.ม.แพ่งฯ ยังปรากฎว่าโจทก์ซ่อมไม่ได้ในข้ออื่น ๆ อีก ส่งมอบรถไม่ทันกำหนด ต้องฟังว่าโจทก์ไม่ได้ซ่อมรถให้ดีและเรียบร้อยตามสัญญา จำเลยต้องส่งไปซ่อมที่อื่นใหม่ และเสียค่าซ่อมในการที่ส่งไปส่งใหม่นี้ การที่จำเลยมิได้นำกลับมาให้โจทก์ซ่อมใหม่นั้น เพราะปรากฎว่าโจทก์รับรองว่า ถ้ามีสิ่งชำรุดบกพร่องต่อไปอีก ๓ เดือน โจทก์จะซ่อมให้ ซึ่งหมายความว่า เมื่อซ่อมเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว หากในระยะเวลานั้นมีอะไรชำรุดเกิดขึ้นใหม่ โจทก์รับซ่อมให้อีก ไม่ได้หมายความว่า โจทก์ซ่อมไม่ดี จำเลยจะต้องนำกลับมาให้โจทก์ซ่อมใหม่ ฉะนั้นการที่จำเลยไม่นำกลับมาให้โจทก์ซ่อม จึงไม่เป็นข้อแก้ตัวของโจทก์ เมื่อโจทก์ซ่อมไม่ดีตามสัญญา โจทก์ก็ต้องรับผิดในข้อนั้น
ในการแก้เครื่องนั้น โจทก์ได้แก้อะไรไปบ้างที่นับว่าเรียบร้อย ซึ่งจำเลยไม่ต้องไปแก้ใหม่ และค่าซ่อมตอนที่เรียบร้อยนั้นเป็นเงินเท่าใด ไม่ปรากฎและไม่มีทางคำนวณได้ คงได้ความแต่ในเรื่องข้อเหวี่ยง ๒๐๐ บาท ศาลฎีกายังให้แต่เพียงเท่านี้โดยไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะว่ากล่าวในข้อเหล่านี้ต่อไป
พิพากษาแก้จำนวนเงิน ๕๓๐๐ บาทเป็นให้จำเลยชำระเงินให้โจทก์ ๒๐๐ บาท นอกนั้นยืน

Share