คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3399/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 288 จะต้องเป็นกรณีที่จำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สินที่ยึด หากจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ยึดร่วมกับผู้ร้อง ผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
ศาลชั้นต้นชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายโดยให้งดสืบพยานของคู่ความแล้วพิพากษาให้ยกคำร้องขัดทรัพย์ ผู้ร้องอุทธรณ์และฎีกาเพียงขอให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาไปตามลำดับ ไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาขอให้เป็นฝ่ายชนะคดีหรือขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด เป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้จึงเสียค่าขึ้นศาล 200 บาท ตามบัญชีท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ตาราง 1 ข้อ 2 ข.
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ปล่อยที่ดินที่ยึดทั้งแปลง โดยอ้างว่าผู้ร้องมีส่วนเป็นเจ้าของรวมครึ่งหนึ่ง ผู้ร้องต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์จากราคาที่ดินทั้งแปลง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ ๓๖๕๘ เพื่อขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์ ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าที่ดินโฉนดดังกล่าวจำเลยกับผู้ร้องมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมกันคนละครึ่ง ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
โจทก์ให้การว่าที่ดินเจ้าพนักงานบังคับคดียึดเป็นของจำเลยแต่ผู้เดียวขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นสั่งว่าคดีพอวินิจฉัยได้ พิพากษาคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จะขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๘ จะต้องเป็นกรณีที่จำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดไว้ แต่ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ยึดร่วมกับผู้ร้อง ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
ผู้ร้องอุทธรณ์และฎีกาเพียงขอให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาไปตามลำดับ การที่ด่วนชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายตามคำร้องของโจทก์แล้วพิพากษาคดีโดยมิได้มีการสืบพยานเป็นการไม่ชอบ ผู้ร้องไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาขอให้เป็นฝ่ายชนะคดีหรือขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด เป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จึงต้องเสียค่าขึ้นศาล๒๐๐ บาท ตามบัญชีท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ตาราง ๑ ข้อ ๒ ข. ไม่ใช่ต้องเสียอย่างคดีมีทุนทรัพย์ตามข้อ ๑ ก.
ส่วนค่าขึ้นศาลในชั้นยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ต่อศาลชั้นต้นนั้นผู้ร้องขอให้ปล่อยที่ดินที่ยึดอันเป็นทรัพย์พิพาททั้งแปลง จึงเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จึงต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์จากราคาที่ดินทั้งแปลง หาใช่คิดเพียงบางส่วน
พิพากษายืน คืนค่าขึ้นศาลเฉพาะชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาส่วนที่เกินกว่า ๒๐๐ บาทแก่ผู้ร้อง

Share