คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3387/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำร้องขอเลื่อนการวางเงิน สั่งในวันเดียวกับที่ยื่นคำร้อง มีข้อความตามแบบพิมพ์ว่า “หมายเหตุข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่แล้ว ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว” ผู้ร้องไม่ลงชื่อรับทราบคำสั่งศาล ก็ถือว่าผู้ร้องทราบคำสั่งแล้ว

ย่อยาว

ผู้ร้องอ้างว่าไม่ทราบคำสั่งให้วางเงินใน 15 วัน ขอขยายเวลาวางเงินต่อไปศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีได้ความว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องวางเงินจำนวน 10,000 บาทเพื่อเป็นประกันการชำระค่าสินไหมทดแทนแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา สำหรับความเสียหายเนื่องจากเหตุเนิ่นช้าในการบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 วรรคสอง(1) ผู้ร้องขอขยายระยะเวลาการวางเงิน และศาลชั้นต้นให้โอกาสผู้ร้องในการวางเงินมาแล้วรวม 2 ครั้ง ครั้นวันที่ 12 มกราคม 2522 ผู้ร้องยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการวางเงินไปอีก 15 วันศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันเดียวกันว่า อนุญาตให้ขยายระยะเวลาการวางเงินเป็นครั้งสุดท้ายโดยให้ผู้ร้องนำเงินมาวางภายในวันที่ 22 มกราคม 2522 คดีมีปัญหาตามฎีกาของผู้ร้องว่า ผู้ร้องทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นหรือไม่ เห็นว่าตามคำร้องลงวันที่ 12 มกราคม 2522 มีข้อความตามแบบพิมพ์ว่า “หมายเหตุข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว” เป็นเงื่อนไขที่มีผลผูกพันผู้ร้อง เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำร้องดังกล่าวในวันที่ผู้ร้องยื่นคำร้อง แม้ผู้ร้องมิได้ลงชื่อรับทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นในคำร้องนั้น ก็ถือว่าผู้ร้องทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นโดยชอบแล้ว ที่ผู้ร้องฎีกาว่าผู้ร้องสำคัญผิดว่า ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายระยะเวลาการวางเงินไป 15 วันนั้น เป็นความผิดของผู้ร้องเอง จะยกเป็นเหตุให้มีการไต่สวนคำร้องเพื่ออนุญาตให้ผู้ร้องวางเงินประกันไม่ได้”

พิพากษายืน

Share