คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3386/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เมื่อผู้คัดค้านที่1กล่าวอ้างว่าที่พิพาทไม่เป็นทรัพย์มรดกแล้วก็ไม่มีเหตุที่จะร้องขอจัดการเกี่ยวกับที่ดินดังกล่าวได้หากผู้ร้องกระทำการ โต้แย้งสิทธิของผู้คัดค้านที่1ประการใดเป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินคดีเอากับผู้ร้องเป็นอีกส่วนหนึ่งจึงไม่มีเหตุที่จะตั้งผู้คัดค้านที่1เป็น ผู้จัดการมรดกได้

ย่อยาว

ผู้ร้อง ยื่น คำร้องขอ ว่า นางสาว สมจิตต์ สุวรรณวงษ์ เป็น พี่สาว ของ บิดา ของ ผู้ร้อง นางสาว สมจิตต์ ทำ พินัยกรรม ยก ทรัพย์มรดก ทั้งหมด ให้ แก่ ผู้ร้อง ซึ่ง มี ที่ดิน 3 แปลง กับ เงินสด ฝาก ธนาคาร อีกจำนวน หนึ่ง ต่อมา วันที่ 17 พฤษภาคม 2528 นางสาว สมจิตต์ ถึงแก่กรรม ผู้ร้อง มี ความ ประสงค์ จะ จัดการ ทรัพย์มรดก จึง ขอให้ศาล ตั้ง ผู้ร้อง เป็น ผู้จัดการมรดก ของ นางสาว สมจิตต์ โดย ผู้ร้อง มี คุณสมบัติ พร้อม ที่ จะ เป็น ผู้จัดการมรดก ได้ ตาม กฎหมาย
ผู้คัดค้าน ที่ 1 และ ที่ 2 ยื่น คำคัดค้าน ว่า ผู้คัดค้าน ทั้ง สองเป็น พี่น้อง ร่วม บิดา มารดา เดียว กัน กับ นางสาว สมจิตต์ สุวรรณวงษ์ พินัยกรรม ที่ ผู้ร้อง อ้างว่า นางสาว สมจิตต์ ทำ ขึ้น นั้น เป็น พินัยกรรม ปลอม ทำ ขึ้น ขณะที่ นางสาว สมจิตต์ ป่วย หนัก จน ไม่สามารถ แสดง เจตนา ทำ พินัยกรรม ได้ โดย การ แอบ จับ นิ้วหัวแม่มือ ของ นางสาว สมจิตต์ พิมพ์ ลง ใน พินัยกรรม จึง ใช้ บังคับ ไม่ได้ ที่ดินพิพาท ทั้ง สาม แปลงเป็น ของ นาย สุทธิ์ สุวรรณวงษ์ ซึ่ง เป็น บิดา ของ ผู้คัดค้าน ทั้ง สอง หลังจาก นาย สุทธิ์ ถึงแก่กรรม ผู้คัดค้าน ทั้ง สอง เข้า ครอบครองปรปักษ์ ใน ที่ดิน ทั้ง สาม แปลง ดังกล่าว มา นาน เกินกว่า 10 ปี จน ได้ กรรมสิทธิ์แล้ว ไม่ใช่ ทรัพย์มรดก ของ นางสาว สมจิตต์ ผู้คัดค้าน ทั้ง สอง จึง เป็น ผู้มีส่วนได้เสีย ที่ จะ เป็น ผู้จัดการมรดก ผู้คัดค้าน ทั้ง สองมี คุณสมบัติ พร้อม ที่ จะ เป็น ผู้จัดการมรดก ได้ ตาม กฎหมาย ขอให้ ยกคำร้องของ ผู้ร้อง และ ตั้ง ผู้คัดค้าน ทั้ง สอง เป็น ผู้จัดการมรดก
ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ตั้ง นาวาอากาศตรี หญิง นภิส สุวรรณวงษ์ หรือ สุวรรณวงศ์ ผู้ร้อง เป็น ผู้จัดการมรดก ของ นางสาว สมจิตต์ สุวรรณวงษ์ ผู้ตาย ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713กับ ให้ มีสิทธิ และ หน้าที่ ตาม กฎหมาย ยก คำคัดค้าน ของ ผู้คัดค้าน ทั้ง สอง
ผู้คัดค้าน ที่ 1 และ ที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษายืน
ผู้คัดค้าน ที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “มี ปัญหา ตาม ฎีกา ของ ผู้คัดค้าน ที่ 1 ว่าผู้คัดค้าน ที่ 1 สมควร เป็น ผู้จัดการมรดก หรือไม่ ใน ข้อ นี้ ผู้ร้องอ้างว่า มี ทรัพย์มรดก เป็น ที่ดิน 3 แปลง ซึ่ง มี ความจำเป็น ที่ ผู้ร้องจะ ต้อง จัดการ เกี่ยวกับ ที่ดินพิพาท ทั้ง สาม แปลง ดังกล่าว จึง ขอให้ ตั้งผู้ร้อง เป็น ผู้จัดการมรดก แต่ ผู้คัดค้าน ที่ 1 อ้างว่า ที่ดินพิพาททั้ง สาม แปลง เป็น ของ นาย สุทธิ์ สุวรรณวงษ์ ซึ่ง ผู้คัดค้าน ที่ 1ครอบครองปรปักษ์ จน ได้ กรรมสิทธิ์ แล้ว ไม่ได้ เป็น ทรัพย์มรดก ของนางสาว สมจิตต์ เจ้ามรดก แต่อย่างใด ดังนี้ เมื่อ ผู้คัดค้าน ที่ 1กล่าวอ้าง ว่า ที่ดินพิพาท ทั้ง สาม แปลง ไม่เป็น ทรัพย์มรดก แล้ว ก็ ไม่มีเหตุ ที่ ผู้คัดค้าน ที่ 1 จะ ร้องขอ จัดการ เกี่ยวกับ ที่ดินพิพาททั้ง สาม แปลง เพราะ ไม่เป็น ทรัพย์มรดก ที่ จะ ขอ จัดการ ได้ หาก ผู้ร้องกระทำการ โต้แย้ง สิทธิ ของ ผู้คัดค้าน ที่ 1 ประการใด ก็ เป็น เรื่องที่ ผู้คัดค้าน ที่ 1 จะ ต้อง ดำเนินคดี ว่ากล่าว เอา กับ ผู้ร้อง เป็นอีก ส่วน หนึ่ง จึง ไม่มี เหตุ ที่ จะ ตั้ง ผู้คัดค้าน ที่ 1 เป็น ผู้จัดการมรดก ฎีกา ของ ผู้คัดค้าน ที่ 1 ฟังไม่ขึ้น ส่วน ฎีกา ประการอื่น นั้นไม่ทำ ให้ ผล คดี เปลี่ยนแปลง ไป จึง ไม่รับ วินิจฉัย ให้ ”
พิพากษายืน

Share