แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
พฤติการณ์แห่งคดีปรากฏว่า จำเลยปีนกำแพงด้านหลังบ้านขึ้นไปบนชั้นที่สองของบ้าน งัดกลอนประตูจนหลุดเป็นการทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือ ทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(3)(4)(8)แม้ทรัพย์ที่จำเลยลักเอาไปมีราคาไม่มากนักแต่จำเลยทำในเวลากลางวันโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ที่จำเลยฎีกา ขอให้รอการลงโทษเพราะจำเลยมีฐานะมั่นคง ความประพฤติเรียบร้อย มีอาชีพที่แน่นอน มีภาระต้องเลี้ยงดูภริยาและบุตรนั้น ตามพฤติการณ์แห่งคดีดังกล่าวยังไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษให้จำเลย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335ริบคีม ของกลางและคืนปากกาทั้งสองด้ามของกลางแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(3)(4)(8) วรรคสี่ จำคุก 1 ปี 4 เดือนคำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปีริบคีม ของกลางกับให้จำเลยคืนปากกาทั้งสองด้ามแก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(3)(4)(8) วรรคสาม ให้ยกคำขอของโจทก์ที่ขอให้คืนปากกาของกลางแก่ผู้เสียหาย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามที่จำเลยฎีกาเพียงข้อเดียวว่ามีเหตุสมควรลงโทษจำเลยในสถานเบาโดยรอการลงโทษแก่จำเลยหรือไม่ เห็นว่า ตามพฤติการณ์แห่งคดี จำเลยปีนกำแพงด้านหลังบ้านขึ้นไปบนชั้นที่สองของบ้าน งัดกลอนประตูจนหลุดเป็นการทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(3)(4)(8) ถึงสามอนุมาตราแม้ทรัพย์ที่จำเลยลักเอาไปมีราคาไม่มากนัก แต่จำเลยทำในเวลากลางวันโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 3 ลดโทษให้จำเลยและลงโทษจำคุก 1 ปี ก็เป็นโทษในสถานเบาและเป็นคุณแก่จำเลยมากแล้ว ที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษเพราะจำเลยมีฐานะมั่นคง ความประพฤติเรียบร้อยมีอาชีพที่แน่นอน มีภาระต้องเลี้ยงดูภริยาและบุตร 3 คนนั้น เห็นว่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 3 ก็ได้นำเหตุผลเหล่านี้มาประกอบดุลพินิจในการวางโทษแก่จำเลยในสถานเบา แต่เห็นว่าตามพฤติการณ์แห่งคดียังไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษแก่จำเลยซึ่งเหมาะสมแก่รูปคดีแล้วฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน