คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3368/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เดิมจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นให้พิจารณาคดีโจทก์ไปฝ่ายเดียวและพิพากษาว่าที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ ให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ต่อมาเจ้าพนักงานที่ดินได้จดทะเบียนโดยลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาทตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นแล้ว จากนั้นจำเลยจึงได้ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ดังนี้ เมื่อศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209 วรรคแรก บัญญัติว่า คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลโดยคู่ความขาดนัด คำพิพากษาหรือคำสั่งอื่น ๆ ของศาลสูงในคดีเดียวกันนั้นและวิธีการบังคับคดีที่ได้ดำเนินไปแล้วนั้น ให้ถือว่าเป็นอันเพิกถอนไปในตัว แต่ถ้าเป็นการพ้นวิสัยที่จะให้คู่ความกลับคืนสู่ฐานะเดิมดังเช่นก่อนการบังคับคดีได้ เมื่อศาลเห็นว่าไม่จำเป็นที่จะบังคับเช่นนั้นเพื่อประโยชน์แก่คู่ความหรือบุคคลภายนอกให้ศาลมีอำนาจสั่งอย่างใด ๆตามที่เห็นสมควรได้ ฉะนั้น การจดทะเบียนลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาทจึงต้องถูกเพิกถอนไปตามบทกฎหมายดังกล่าว ทั้งจำเลยก็ได้มีคำขอให้ศาลเพิกถอนรายการจดทะเบียนที่เจ้าพนักงานที่ดินลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินพิพาทมาในคำให้การที่ศาลอนุญาตให้จำเลยยื่นได้ในชั้นที่จำเลยขอพิจารณาคดีใหม่ด้วยแล้ว ศาลจึงมีอำนาจสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินซึ่งจดทะเบียนลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินพิพาทเพิกถอนรายการจดทะเบียนดังกล่าวนั้นได้เพราะเป็นการสั่งเพิกถอนการบังคับคดีที่ได้ดำเนินไปแล้วให้กลับคืนสู่ฐานะเดิมก่อนมีการบังคับคดีนั่นเอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 5135 ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี เป็นของโจทก์ให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ หากไม่ไปให้ถือคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน
ในชั้นแรกจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาศาลชั้นต้นให้พิจารณาคดีโจทก์ไปฝ่ายเดียว และมีคำพิพากษาแล้ว ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่
จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ที่ดินโฉนดเลขที่ 5135 ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี จำเลยเป็นผู้ซื้อฝากไว้เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2523 ด้วยเงินของจำเลยเอง จำเลยไม่ได้ลงชื่อในโฉนดที่ดินแทนโจทก์ อนึ่งเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2530 โจทก์ได้จดทะเบียนลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินดังกล่าวแล้ว ขอให้ยกฟ้องและให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรี เพิกถอนรายการจดทะเบียนที่ลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินดังกล่าว
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง ให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีเพิกถอนรายการจดทะเบียนที่ลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินเลขที่ 5135 ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรีเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2530
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นยุติว่า คดีนี้เดิมจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นให้พิจารณาคดีโจทก์ไปฝ่ายเดียวและพิพากษาเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2530 ว่าที่ดินพิพาทโฉนดเลขที่ 5135 ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมืองราชบุรีจังหวัดราชบุรี เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ หากจำเลยไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาแสดงเจตนาแทนจำเลย ต่อมาวันที่ 20 ตุลาคม 2530 เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีได้จดทะเบียนโดยลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาทตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นดังกล่าว ครั้นวันที่18 เมษายน 2531 จำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่า ศาลมีอำนาจสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีเพิกถอนรายการจดทะเบียนที่ลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาทเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2530 ดังที่จำเลยขอมาในคำให้การจำเลยได้หรือไม่ เห็นว่า ในกรณีการพิจารณาโดยขาดนัดนั้น เมื่อคู่ความฝ่ายที่ขาดนัดได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ และศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ยกคดีนั้นขึ้นพิจารณาใหม่แล้ว กฎหมายได้บัญญัติด้วยว่า คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลโดยคู่ความขาดนัด คำพิพากษาหรือคำสั่งอื่น ๆ ของศาลสูงในคดีเดียวกันนั้น และวิธีการบังคับคดีที่ได้ดำเนินไปแล้ว ให้ถือว่าเป็นอันเพิกถอนไปในตัว แต่ถ้าเป็นการพ้นวิสัยที่จะให้คู่ความกลับคืนสู่ฐานะเดิมดังเช่นก่อนการบังคับคดีได้ เมื่อศาลเห็นว่าไม่จำเป็นที่จะบังคับเช่นนั้น เพื่อประโยชน์แก่คู่ความหรือบุคคลภายนอกให้ศาลมีอำนาจสั่งอย่างใด ๆ ตามที่เห็นสมควรได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209 วรรคแรก การที่เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีจดทะเบียนลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาท เป็นการปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในชั้นที่พิจารณาคดีโดยจำเลยขาดนัดและถือเป็นวิธีการบังคับคดีที่ได้ดำเนินไปแล้วนั่นเอง เมื่อศาลมีคำสั่งให้ยกคดีนี้ขึ้นพิจารณาใหม่แล้ว การจดทะเบียนลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาทจึงต้องถูกเพิกถอนไปตามบทกฎหมายดังกล่าว ทั้งจำเลยก็ได้มีคำขอให้ศาลเพิกถอนรายการจดทะเบียนที่เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินพิพาทมาด้วยแล้วดังนั้น ศาลจึงมีอำนาจสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีซึ่งจดทะเบียนลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินพิพาทเพิกถอนรายการจดทะเบียนดังกล่าวนั้นได้ เพราะเป็นการสั่งเพิกถอนการบังคับคดีที่ได้ดำเนินไปแล้ว ให้กลับคืนสู่ฐานะเดิมก่อนมีการบังคับคดีนั่นเอง ที่ศาลอุทธรณ์ไม่พิพากษาให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีเพิกถอนรายการจดทะเบียนดังกล่าวด้วยนั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาฎีกาจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เพิกถอนการบังคับคดี โดยให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีเพิกถอนรายการจดทะเบียนที่ลงชื่อโจทก์ในโฉนดที่ดินเลขที่ 5135 ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมืองราชบุรีจังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2530 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์

Share