คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3360/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องบอกเลิกการเช่านาพิพาทซึ่งผู้เช่าได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 แต่คณะกรรมการควบคุมการเช่านาได้มีมติยับยั้งการบอกเลิกการเช่ามีกำหนดสองปี มีผลให้ผู้เช่ามีสิทธิทำนาต่อไปถึงปี พ.ศ.2525 ระหว่างนั้นพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2524 ซึ่งใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2524 และ มาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติฉบับใหม่ให้ถือว่าการเช่านาที่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 เป็นการเช่าที่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติฉบับใหม่ต่อไป ดังนั้นสิทธิการเช่านาพิพาทอันเกิดจากการใช้สิทธิยับยั้งการบอกเลิกการเช่าจึงยังไม่สิ้นสุดและอยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2524 ด้วย คำวินิจฉัยของคณะกรรมการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบลและประจำจังหวัดให้ยับยั้งการบอกเลิกการเช่านาพิพาทอีกเป็นครั้งที่สองตามพระราชบัญญัติฉบับใหม่ จึงชอบด้วยกฎหมาย.

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะกรรมการควบคุมการเช่านาจังหวัดลพบุรีว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของที่นาพิพาท เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๒ ผู้ร้องได้บอกเลิกการเช่านาต่อผู้เช่านาเพื่อจะทำนาเอง ผู้เช่านาได้ร้องขอต่อคณะกรรมการควบคุมการเช่านาซึ่งคณะกรรมการ ฯ มีมติให้ยับยั้งการบอกเลิกการเช่านาไว้มีกำหนด ๒ ปี ต่อมาวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๒๕ ผู้เช่านายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการเช่าที่ดินประจำตำบลเพื่อขอยับยั้งการบอกเลิกการเช่าที่ดินเป็นครั้งที่สอง คณะกรรมการ ฯ มีมติยับยั้งการบอกเลิกไว้อีก ๑ ปี ผู้ร้องและผู้เช่านาอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำจังหวัด คณะกรรมการ ฯ มีมติให้ยับยั้งการบอกเลิกการเช่านาไว้อีก ๒ ปี ซึ่งผู้ร้องเห็นว่าฝ่าฝืนต่อกฎหมายเนื่องจากมีพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๒๔ มาตรา ๓ ยกเลิกพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. ๒๕๑๗ แล้วขอให้ศาลมีคำสั่งกลับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดลพบุรีเสียให้ผู้เช่านาออกไปจากที่นาผู้ร้องด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีในฐานะประธานกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดคัดค้านว่า มติของคณะกรรมการ ฯ ที่ยับยั้งการบอกเลิกการเช่านาเป็นครั้งที่สองมีกำหนด ๒ ปี นั้นชอบตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๒๔ มาตรา ๖๖ ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า สิทธิของผู้เช่านารายพิพาทยังอยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. ๒๕๑๗ จึงถือว่าอยู่ในบังคับตามมาตรา ๖๖ แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๒๔ คณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดลพบุรี จึงมีสิทธิยับยั้งการบอกเลิกการเช่าครั้งที่สองได้ตามมาตรา ๓๗ ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า สิทธิการเช่านารายพิพาทไม่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๒๔มาตรา ๖๖ คำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดลพบุรีที่ให้ยับยั้งการบอกเลิกการเช่าครั้งที่สองจึงไม่ชอบ พิพากษากลับ ให้ยกเลิกคำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเสีย
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้สิทธิการเช่านาพิพาทของผู้เช่าซึ่งเดิมอยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้ครบกำหนดเวลาหกปีแล้วตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๒๓ แต่เมื่อผู้ร้องได้บอกเลิกการเช่านาและคณะกรรมการควบคุมการเช่านาได้มีมติให้ยับยั้งการบอกเลิกการเช่ามีกำหนด ๒ ปีอันมีผลให้ผู้เช่ามีสิทธิทำนาต่อไปในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ และ ๒๕๒๕ และระหว่างระยะเวลาที่ผู้เช่ายังได้รับสิทธิให้เช่านาทำต่อไปตามผลบังคับแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. ๒๕๑๗ ปรากฏว่าพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๒๔ ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๒๔ แต่ตามมาตรา ๖๖ แห่งพระราชบัญญัติฉบับใหม่ดังกล่าวบัญญัติให้ถือว่าการเช่านารายใดที่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. ๒๕๑๗ เป็นการเช่านาที่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๒๔ ต่อไป ดังนั้น เมื่อปรากฏว่าสิทธิการเช่านาพิพาทของผู้เช่าอันเกิดจากการใช้สิทธิยับยั้งการบอกเลิกการเช่าบังไม่สิ้นสุดลง กรณีจึงต้องถือว่าการเช่านารายพิพาทยังอยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ. ๒๕๑๗ อันมีผลให้การเช่านาพิพาทเป็นการเช่านาที่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติฉบับใหม่ต่อไป คำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบลและจังหวัดที่ให้ยับยั้งการบอกเลิกการเช่านาเป็นครั้งที่สอง จึงชอบด้วยเจตนารมย์แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม มาตรา ๓๗ ประกอบด้วยมาตรา ๖๖ ที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดลพบุรีที่ยับยั้งการบอกเลิกการเช่านาพิพาทเป็นครั้งที่สองไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาของผู้คัดค้านฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

Share