แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่54) พ.ศ.2517 บัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาบัญชีที่ 1 หมวด 4 บัญญัติว่า ‘หมวด 4 วัตถุก่อสร้างและเครื่องเรือน(1) ฯลฯ (6) กลอน บานพับ คานเหล็ก ผลิตภัณฑ์โลหะใด ๆ ที่มิได้ผลิตจากสินค้าตาม (4)’ กลอนบานพับคานเหล็กเหล็กฉาก เป็นวัตถุที่ทำขึ้นเพื่อใช้ในการก่อสร้าง แต่หาใช่เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในการก่อสร้างทุกรายไม่ผลิตภัณฑ์โลหะที่บัญญัติต่อท้ายกลอน บานพับ คานเหล็กและเหล็กฉากดังกล่าวก็ต้องมีลักษณะทำนองเดียวกัน กล่าวคือ ไม่ต้องเป็นสิ่งจำเป็นต่อการก่อสร้างจนถึงแก่จะขาดเสียมิได้ด้วยทองเหลืองรูปตัวทีใช้สำหรับทำคิ้วพื้นหินขัดสามารถแบ่งพื้นหินขัดออกเป็นแผ่นๆป้องกันมิให้พื้นแตกเป็นทางยาวข้ามแผ่นได้และทองเหลืองรูปตัวแอลใช้ทำขอบของขั้นบันไดหินขัด ก็หุ้มขอบบันไดมิให้แตกและสึกกร่อนง่ายทองเหลืองดังกล่าวจึงเป็นวัตถุที่ทำขึ้นเพื่อใช้ในการก่อสร้างการที่ใช้ประกอบเข้าแล้วทำให้เกิดความสวยงามด้วยก็เป็นลักษณะของวัตถุก่อสร้างทั่ว ๆ ไปนั่นเอง ฟังไม่ได้ว่าทองเหลืองดังกล่าวเป็นเพียงสิ่งประดับ ดังนี้ทองเหลืองรูปตัวทีและตัวแอลย่อมเป็นผลิตภัณฑ์โลหะอันเป็นวัตถุก่อสร้างตามหมวด 4(6) แห่งบัญชีที่1ท้ายพระราชกฤษฎีกาฯ พ.ศ.2517 และเมื่อเป็นสินค้าตามบัญชีที่ 1แล้วย่อมไม่ได้รับยกเว้นภาษีการค้าตามมาตรา 5(8) จึงต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 7 ตามประเภทการค้า 1 ชนิด 1(ก) ในบัญชีอัตราภาษีการค้า ท้ายหมวด 4 ลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทำการค้าและผลิตภัณฑ์สินค้าทองเหลืองรูปตัวทีและตัวแอลโจทก์ได้รับแจ้งการประเมินจากเจ้าพนักงานประเมินภาษีการค้าว่าโจทก์เสียภาษีการค้าไว้ผิดอัตรา จึงประเมินให้โจทก์เสียภาษีการค้าเพิ่มเติมเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และภาษีบำรุงเทศบาล โจทก์ยื่นอุทธรณ์การประเมิน คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้วินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ว่า สินค้าทองเหลืองรูปตัวทีและตัวแอลเข้าลักษณะเป็นสินค้าตามหมวด 4(6) แห่งบัญชีที่ 1 ท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 59) พ.ศ. 2517 ต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 7 ของรายรับโจทก์เห็นว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมายสินค้าทองเหลืองรูปตัวทีและตัวแอลไม่ใช่ผลิตภัณฑ์โลหะที่เป็นของใช้สำเร็จรูปแต่อย่างใดเป็นทองเหลืองเส้นยาว ๆ เป็นรูปสมมุติยังใช้เป็นของสำเร็จรูปอย่างใด ๆ ไม่ได้ ต้องเอามาใช้ประกอบกับสิ่งอื่น ๆ เป็นต้นว่านำไปฝังเป็นลวดลายในพื้นหรือฝาผนังที่ทำด้วยหินขัด ให้เกิดความสงยงาม หรือฝังลงในเครื่องเฟอร์นิเจอร์ที่ทำด้วยไม้ หรือนำไปหุ้มขั้นบันไดทำให้ขั้นบันไดสวยงามหาใช่เป็นวัตถุก่อสร้างดังเจ้าพนักงานประเมินและคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้วินิจฉัยว่าเป็นสินค้าาตาม หมวด 4(6) แห่งบัญชีที่ 1 ท้ายพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 ไม่ เพราะคำว่า กลอนคานเหล็ก เหล็กฉาก ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่มิได้ผลิตจากสินค้าตาม (4) หมายถึงผลิตภัณฑ์ที่สำเร็จรูป สินค้าของโจทก์เป็นสินค้าที่ไม่มีรายการใด ๆ ระบุไว้ในบัญชีที่ 1 บัญชีที่ 2บัญชีที่ 3 เมื่อนำเข้าในราชอาณาจักรต้องเสียภาษีการค้าร้อยละ 1.5 ของรายรับ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ฉะนั้นเมื่อสินค้าที่โจทก์ผลิตขึ้นจำหน่ายในประเทศจึงไม่ต้องเสียภาษีการค้า ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์
จำเลยทั้งสี่ให้การทำนองเดียวกันว่าา สินค้าของโจทก์เข้าลักษณะเป็นวัตถุก่อสร้างตามบัญชีที่ 1 หมวด 4(6) ท้ายพระราชกฤษฎีกา ฯ (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517ต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 7 ของรายรับสำหรับการขายในราชอาณาจักรโจทก์ยื่นแบบแสดงรายการและเสียภาษีการค้าไว้ในอัตราร้อยละ 1.5 จึงไม่ถูกต้องครบถ้วย ฉะนั้นคำสั่งของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่ให้โจทก์ชำระภาษีการค้าเพิ่มเติมจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้เพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์
จำเลยทั้งสี่ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 บัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกา บัญชีที่ 1 หมวด 4 บัญญัติว่า “หมวด 4 วัตถุก่อสร้างและเครื่องเรือน(1) ฯลฯ (6) กลอน บานพับ คานเหล็ก เหล็กฉาก ผลิตภัณฑ์โลหะใด ๆ ที่มิได้ผลิตจากสินค้าตาม (4)” สำหรับสินค้าตาม (4) ได้แก่ เหล็กเส้นและลวดเหล็ก เห็นว่ากลอน บานพับ คานเหล็ก เหล็กฉาก เป็นวัตภุที่ทำขึ้นเพื่อใช้ในการก่อสร้าง แต่หาใช่เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในการก่อสร้างทุกรายไม่ เช่น การก่อสร้างอาคารบางรายอาจใช้กุญแจลูกบิดโดยมิได้ใช้กลอน หรืออาจก่อสร้างโดยไม่ใช้เหล็กฉากก็ได้ ผลิตภัณฑ์โลหะที่บัญญัติต่อท้ายกลอน บานพับ คานเหล็กและเหล็กฉากดังกล่าวก็ต้องมีลักษณะทำนองเดียวกันกล่าวคือ ไม่ต้องเป็นที่จำเป็นต่อการก่อสร้างจนถึงแก่จะขาดเสียมิได้ด้วยทองเหลืองรูปตัวทีใช้สำหรับทำคิ้ววพื้นหินขัด ส่วนทองเหลืองรูปตัวแอลใช้ทำขอบของขั้นบันไดหินขัด เห็นได้ว่า ทองเหลืองรูปตัวทีและตัวแอลเป็นวัตถุที่ทำขึ้นเพื่อใช้ในการก่อสร้าง แม้การเทพื้นหินขัดจะไม่ใช้ทองเหลืองรูปตัวทีตัวแอลก็ได้ก็ไม่ทำให้ขาดลักษณะเป็นวัตถุก่อสร้างไป ที่พยานโจทก์เบิกความว่า ทองเหลืองรูปตัวทีและตัวแอลใช้เพียงเป็นสิ่งประดับพื้นและขั้นบันไดหินขัดหรือประดับเฟอร์นิเจอร์นั้น เห็นว่า อย่างน้อยทองเหลืองรูปตัวทีสามารถแบ่งพื้นหินขัดออกเป็นแผ่น ๆ ป้องกันมิให้พื้นแตกเป็นทางยาวข้ามแผ่นได้ และทองเหลือรูปตัวแอลก็หุ้มขอบบันไดมิให้แตกและสึกกร่อนง่าย จึงเป็นประโยชน์แก่สิ่งก่อสร้างและการที่ใช้ประกอบเข้าแล้วทำให้เกิดความสวยงามด้วยก็เป็นลักษณะของวัตถุก่อสร้างทั่ว ๆ ไปนั่นเอง ฟังไม่ได้ว่าทองเหลืองดังกล่าวเป็นเพียงสิ่งประดับ ศาลฎีกาเห็นว่า ทองเหลืองรูปตัวทีและตัวแอลที่โจทก์ผลิตจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์โลหะอันเป็นวัตถุก่อสร้างตามหมวด 4(6) แห่งบัญชีที่ 1 ท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า (ฉบับที่ 54) พ.ศ. 2517 และเมื่อเป็นสินค้าตามบัญชีที่ 1 แล้วย่อมไม่ได้รับยกเว้นภาษีการค้าตามมาตรา 5(8) ของพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว จึงต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 7 ตามประเภทการค้า 1 ชนิด 1(ก) ในบัญชีอัตราภาษีการค้า ท้ายหมวด 4ลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์จึงชอบแล้ว
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น