คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 336/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 ได้ทำหนังสือสัญญาเช่าซื้อรถยนต์บรรทุกจากโจทก์จำเลยนำสืบพยานบุคคลว่าขณะทำสัญญาเช่าซื้อกันได้มีข้อตกลงกันเป็นพิเศษด้วยว่า หากจำเลยไม่ได้ดำเนินกิจการบรรทุกน้ำมัน โจทก์รับรถคืนพร้อมกับริบเงินที่จำเลยชำระในงวดแรกโดยไม่เรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ เจตนาของคู่กรณีไม่ได้ถือสัญญาเช่าซื้อเป็นสำคัญ เช่นนี้เป็นการนำสืบพยานบุคคลเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในสัญญาเช่าซื้อ ซึ่งกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
จำเลยชำระเงินค่าเช่าซื้องวดแรกบางส่วนในวันทำสัญญา แล้วผิดสัญญาไม่ได้ชำระอีกเลย โจทก์บอกเลิกสัญญา จำเลยต้องชดใช้ค่าที่โจทก์ยอมให้ใช้ทรัพย์ที่เช่าซื้อในระหว่างที่ทรัพย์อยู่ในความครอบครองของจำเลย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคสาม
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายที่จำเลยผิดสัญญาเช่าซื้อโดยอาศัยค่าเช่าที่โจทก์อาจนำทรัพย์ที่เช่าซื้อไปให้เช่าเป็นเกณฑ์คำนวณมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 ไม่ใช่ 5 ปี ตามมาตรา 165

Share