คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3354/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ โดยจำเลยเอาความอันเป็นเท็จฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาว่าโจทก์เบียดบังเอาฟิล์มภาพยนตร์รายพิพาทของจำเลยไปโดยทุจริต และจำเลยได้เบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีนั้นว่าโจทก์ได้ขอยืมฟิล์มภาพยนต์ไปจากจำเลย ซึ่งความจริงจำเลยได้ขายฟิล์มภาพยนตร์ให้โจทก์และได้รับชำระราคาจากโจทก์ไปแล้ว อันเป็นมูลกรณีเดียวกันกับที่โจทก์ฟ้องคดีอาญาขอให้ลงโทษจำเลยฐานฟ้องเท็จและเบิกความเท็จโดยอ้างว่าความจริงจำเลยได้ขายฟิล์มภาพยนตร์ให้โจทก์และได้รับชำระราคาจากโจทก์ไปแล้วอย่างเดียวกับที่โจทก์อ้างในคดีนี้คดีนี้จึงเป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาดังกล่าว คำพิพากษาในคดีอาญาดังกล่าวนอกจากผูกพันโจทก์จำเลยซึ่งเป็นคู่ความในคดีแล้ว ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งนี้ ศาลยังจะต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาด้วย
เมื่อข้อเท็จจริงในคดีอาญาที่โจทก์ฟ้องฟังยุติแล้วว่าจำเลยไม่ได้ขายฟิล์มภาพยนตร์รายพิพาทให้โจทก์และได้รับชำระราคาจากโจทก์ การฟ้องและการเบิกความของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดหรือเท็จด้วย การพิพากษาคดีส่วนแพ่งนี้ศาลจึงต้องถือตามฟ้องโจทก์ในส่วนแพ่งที่หาว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์โดยจำเลยเอาความอันเป็นเท็จฟ้องโจทก์และเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณานั้นจึงตกไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ขายฟิล์มภาพยนต์ไทยเรื่องจงอางผยองให้โจทก์โจทก์ชำระราคาเรียบร้อยและจำเลยได้มอบฟิล์มภาพยนต์ให้โจทก์แล้ว ต่อมาจำเลยได้ฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาต่อศาลแขวงธนบุรีว่าโจทก์ได้เบียดบังเอาฟิล์มภาพยนต์ดังกล่าวโดยทุจริตและจำเลยได้เบิกความอันเป็นเท็จว่าโจทก์ได้ขอยืมฟิล์มภาพยนต์ดังกล่าวจากจำเลยอันเป็นข้อสำคัญในคดีอีกด้วย ในที่สุดศาลแขวงธนบุรีพิพากษายกฟ้อง โจทก์จึงได้ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาเพื่อให้ลงโทษตามกฎหมาย การที่จำเลยเอาความอันเป็นเท็จฟ้องโจทก์และเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาต่อศาลแขวงธนบุรีเป็นการละเมิดสิทธิโจทก์ โจทก์ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของโจทก์ หรือเสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือความเจริญของโจทก์ ขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย 400,000 บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ย

จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยไม่ได้ขายฟิล์มภาพยนต์ให้โจทก์และไม่ได้รับเงินจากโจทก์ โจทก์เพียงแต่ขอเอาไปฉายตรวจดูเพื่อพิจารณาว่าจะนำออกฉายอีกได้สมบูรณ์หรือไม่เท่านั้น จำเลยใช้สิทธิทางศาลโดยสุจริตและเป็นความจริงมิได้ฟ้องและเบิกความเท็จแต่อย่างใด โจทก์ครอบครองฟิล์มภาพยนต์ของจำเลยโดยมิชอบ ราคาฟิล์มภาพยนต์เป็นเงิน 40,000 บาท จำเลยได้รับความเสียหายจากการกระทำของโจทก์คิดเป็นเงิน 20,000 บาท ขอให้ยกฟ้องและบังคับให้โจทก์คืนหรือใช้ราคาฟิล์มภาพยนต์กับค่าเสียหายแก่จำเลย

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์ได้ซื้อฟิล์มภาพยนต์จากจำเลยและชำระราคาเรียบร้อยแล้ว โจทก์จึงไม่ต้องคืนหรือใช้ราคาฟิล์มภาพยนต์ให้จำเลย จำเลยไม่ได้รับความเสียหาย ขอให้ยกฟ้องแย้ง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนตามฟ้องพร้อมดอกเบี้ยให้ยกฟ้องแย้ง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์คือฟิล์มภาพยนต์แก่จำเลยพร้อมค่าเสียหาย 20,000 บาท หากคืนฟิล์มไม่ได้ให้ใช้ราคา 30,000 บาท

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ โดยอ้างว่าจำเลยเอาความอันเป็นเท็จฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาต่อศาลแขวงธนบุรีว่าโจทก์เบียดบังเอาฟิล์มภาพยนต์รายพิพาทของจำเลยไปโดยทุจริต และจำเลยได้เบิกความ อันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีนั้นว่าโจทก์ได้ขอยืมฟิล์มภาพยนต์รายพิพาทไปจากจำเลย ซึ่งความจริงจำเลยได้ขายฟิล์มรายพิพาทให้โจทก์และจำเลยได้รับชำระราคาจากโจทก์ไปแล้ว อันเป็นมูลกรณีเดียวกันกับที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฟ้องเท็จและเบิกความเท็จตามคดีหมายเลขดำที่ 16637/2523ของศาลอาญาดังกล่าว ข้างต้นโดยโจทก์อ้างในคดีอาญานั้นว่า ความจริงจำเลยได้ขายฟิล์มภาพยนต์รายพิพาทให้โจทก์และจำเลยได้รับชำระราคาจากโจทก์ไปเรียบร้อยแล้วอย่างเดียวกับที่โจทก์อ้างในคดีนี้ คดีนี้จึงเป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาดังกล่าว คำพิพากษาในคดีอาญาดังกล่าวนอกจากผูกพันโจทก์จำเลยซึ่งเป็นคู่ความในคดีแล้ว ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งนี้ ศาลยังจะต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 อีกด้วย เมื่อคดีปรากฏว่าคดีอาญาที่โจทก์ฟ้องได้ถึงที่สุดโดยศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า พยานหลักฐานโจทก์รับฟังเป็นความจริงไม่ได้ว่าจำเลยได้ขายฟิล์มภาพยนต์รายพิพาทให้โจทก์ และจำเลยได้รับชำระราคาจากโจทก์แล้ว ดังโจทก์อ้าง การฟ้องและการเบิกความของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดหรือเท็จดังนี้แล้ว ในการพิจารณาคดีส่วนแพ่งนี้ศาลฎีกาจึงต้องถือข้อเท็จจริงในคดีอาญาซึ่งฟังยุติแล้วว่าจำเลยไม่ได้ขายฟิล์มภาพยนต์รายพิพาทให้โจทก์และได้รับชำระราคาจากโจทก์ และต้องฟังว่าการฟ้องและการเบิกความของจำเลยไม่เป็นเท็จด้วย ฟ้องโจทก์ในส่วนแพ่งที่หาว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์โดยจำเลยเอาความอันเป็นเท็จฟ้องโจทก์ต่อศาลแขวงธนบุรีและเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาต่อศาลแขวงธนบุรีจึงตกไป

พิพากษายืน

Share