คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3346/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ที่ 2 อายุ 15 ปี จำเลยที่ 1 อายุ 14 ปี ต่างสมัครใจเล่นขว้างปา ก้อนดิน ใส่ กัน ก้อนดิน ถูกตา ซ้าย โจทก์ที่ 2 ได้รับบาดเจ็บดังนี้ เป็นกรณีเกิดจากการเล่นตามวิสัยเด็กโดยโจทก์ที่ 2 สมัครใจเข้าร่วมเล่นด้วย ถือได้ว่าโจทก์ที่ 2 มีส่วนเป็นต้นเหตุให้เกิดการละเมิด ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 นำกระบือไปเลี้ยงห่างหมู่บ้าน 4กิโลเมตร จำเลยที่ 2 ไม่ได้ไปด้วยการเล่นขว้างปา ก้อนดิน เป็นการเล่นธรรมดาทั่วไปที่เด็ก ๆ จะชักชวนและสมัครใจเล่นกันเองตามวิสัยไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 เคยรู้ว่าจำเลยที่ 1 เคยเล่นขว้างปา ก้อนดิน กันมาก่อนจึงเกินความคาดคิดที่จำเลยที่ 2 ผู้เป็นบิดาจะควบคุมได้ ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้ใช้ความระมัดระวังดูแล จำเลยที่ 1 ตามสมควรแก่หน้าที่แล้ว.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ขว้างปาก้อนดินโดยประมาทถูกตาซ้ายโจทก์ที่ 2 ได้รับอันตรายสาหัส ตาพิการไม่สามารถมองเห็นได้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบิดาจำเลยที่ 1 ต้องร่วมรับผิดด้วย ขอให้ชดใช้ค่าเสียหาย 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ 1 กระทำละเมิดต่อโจทก์ที่ 2จริง แต่ไม่ถึงพิการ ค่าเสียหายทั้งหมดไม่เกิน 4,000 บาท จำเลยที่ 2ได้ใช้ความระมัดระวังในการดูแลจำเลยที่ 1 ตามสามควรแก่หน้าที่ไม่ต้องร่วมรับผิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินรว 33,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
โจทก์ทั้งสองและจำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 46,000บาทพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ สำหรับจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่คู่ความนำสืบมาว่า ขณะเกิดเหตุ โจทก์ที่ 2 อายุ 15 ปี จำเลยที่ 1 อายุ 14 ปี และอยู่หมู่บ้านเดียวกัน วันเกิดเหตุโจทก์ที่ 2 จำเลยที่ 1 และเพื่อนเด็กด้วยกัน 4 คน นำกระบือไปเลี้ยงห่างบ้านประมาณ 4 กิโลเมตรโดยจำเลยที่ 2 อยู่ที่บ้านไม่ได้ไปด้วย ขณะเลี้ยงกระบือได้แบ่งพวกเป็น 2 ฝ่าย เล่นขว้างปาก้อนดินกัน จำเลยที่ 1 โดยประมาทเลินเล่อ ได้ขว้างปาก้อนดินไปถูกตาโจทก์ที่ 2 ได้รับบาดเจ็บ…ประเด็นที่จะวินิจฉัยมีว่า โจทก์ควรจะได้รับค่าเสียหายจากการสูญเสียประสิทธิภาพในการมองเห็น เสียความสามารถในการประกอบการงานเพียงใด จากรายงานการตรวจเอกสารหมาย จ.5 และคำเบิกความของนายแพทย์สมชาย กิตติพงษ์หรรษา ฟังได้ว่า ตามของโจทก์ที่ 2สูญเสียประสิทธิภาพในการมองเห็น 80% คือยังสามารถมองเห็นได้บ้างในระยะ 6 ฟุต หรือมากกว่านี้เล็กน้อย ฝ่ายโจทก์เองก็นำสืบว่า ตาซ้ายของโจทก์ที่ 2 สามารถมองเห็นได้ลาง ๆ และเหตุแห่งการนี้ เกิดจากการเล่นกันตามวิสัยเด็กโดยโจทก์ที่ 2 สมัครใจเข้าไปร่วมเล่นด้วยย่อมต้องระมัดระวังมิให้ก้อนดินที่เล่นขว้างปากันไปถูกตน ถือได้ว่าโจทก์ที่ 2 มีส่วนเป็นต้นเหตุให้เกิดการละเมิดอยู่ด้วย ที่ศาลอุทธรณ์กำหนดให้ค่าเสียหายจากการขาดประสิทธิภาพในการมองเห็นเป็นเงิน 30,000 บาทนั้น เป็นผลดีแก่โจทก์มากอยู่แล้ว ประเด็นที่จะวินิจฉัยต่อไปมีว่า จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบิดาจำเลยที่ 1 จะต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนด้วยหรือไม่ จากการนำสืบของคู่ความได้ความว่าขณะเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 นำกระบือไปเลี้ยงห่างหมู่บ้านถึง 4 กิโลเมตร โดยจำเลยที่ 2 อยู่ที่บ้าน ไม่ได้ไปด้วย การเล่นต่าง ๆ รวมทั้งเล่นขว้างปาก้อนดินจนเกิดเหตุคดีนี้ก็เป็นการเล่นธรรมดาทั่วไปที่เด็ก ๆ จะชักชวนและสมัครใจเล่นกันเองตามวิสัยและไม่ปรากฏจากทางนำสืบของคู่ความว่า จำเลยที่ 2 เคยรู้ว่า ก่อนนี้จำเลยที่ 1 เคยเล่นขว้างปาก้อนดินกันมาแล้ว จะได้ห้ามปรามจำเลยที่ 1ได้ การที่มีการเล่นจนเกิดเหตุคดีนี้ จำเลยที่ 2 มิได้ไปรู้เห็นด้วยในภาวะเช่นนี้จึงเกินความคาดคิดสุดวิสัยที่จำเลยที่ 2 จะไปควบคุมถึง ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้ใช้ความระมัดระวังดูแลจำเลยที่ 1 ตามสมควรแก่หน้าที่แล้ว จึงไม่ต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้วฎีกาโจทก์ทั้งสองฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share