คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3341/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ร้องยื่นคำร้องอ้างว่าเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยขอเฉลี่ยเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยตามส่วนศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคำร้องว่านัดพิจารณาสำเนาให้โจทก์จำเลยเช่นนี้วันนัดพิจารณาคือวันที่ศาลชี้สองสถานสืบพยานทำการไต่สวนฟังคำขอต่างๆหรือฟังคำแถลงการณ์ด้วยวาจาเป็นต้นส่วนวันสืบพยานคือวันที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยานวันที่ศาลนัดพิจารณาอาจจะมิใช่วันสืบพยานผู้ร้องและโจทก์จึงไม่จำต้องยื่นบัญชีพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวันตามบทบัญญัติป.วิ.พ.มาตรา88.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้เงินกู้พร้อมดอกเบี้ยตามฟ้องแก่โจทก์ จำเลยทั้งสองไม่ชำระ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยทั้งสองชำระหนี้โจทก์ ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยทั้งสอง จำเลยทั้งสองไม่มีทรัพย์อื่นใดที่จะชำระหนี้แก่ผู้ร้องได้ จึงขอเฉลี่ยเงินที่ขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยตามส่วน
โจทก์คัดค้านว่า หนี้ตามพิพากษาระหว่างผู้ร้องกับจำเลยทั้งสองเกิดจากการสมยอม จำเลยยังมีทรัพย์อื่นอีก ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ผู้ร้องและโจทก์มิได้ยื่นบัญชีพยานก่อนวันนัดพิจารณาคำร้องไม่น้อยกว่าสามวันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ผู้ร้องมีหน้าที่นำสืบ เมื่อผู้ร้องไม่สามารถนำสืบตามที่กล่าวอ้างย่อมขอเฉลี่ยเงินไม่ได้ นอกจากนี้มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าหนี้ระหว่างผู้ร้องกับจำเลยทั้งสองเกิดจากการสมยอมไม่มีมูลหนี้ต่อกัน มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคำร้องว่า”นัดพิจารณา สำเนาให้โจทก์จำเลย” ต่อมาศาลชั้นต้นยังมีหมายนัดแจ้งให้โจทก์และจำเลยทราบวันเวลาที่ศาลชั้นต้นนัดพิจารณาคำร้องอีก วันนัดพิจารณาคือวันที่ศาลชี้สองสถาน สืบพยาน ทำการไต่สวนฟังคำขอต่าง ๆ หรือฟังคำแถลงการณ์ด้วยวาจาเป็นต้น ส่วนวันสืบพยานคือวันที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยาน วันที่ศาลนัดพิจารณาจึงอาจมิใช่วันสืบพยาน เมื่อศาลชั้นต้นเพียงแต่นัดพิจารณาคำร้อง มิได้นัดสืบพยาน ผู้ร้องและโจทก์จึงไม่จำต้องยื่นบัญชีพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยว่าสามวันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 88…”
พิพากษายืน.

Share