แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงในคดีที่จำเลยรับสารภาพย่อมหนักเบาต่างกับคดีที่จำเลยให้การปฏิเสธ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยปล้นทรัพย์จำเลย ๆ ให้การรับสารภาพชั้นสอบสวน และได้นำไปชี้ที่เกิดเหตุในชั้นศาลจำเลยก็ให้การรับสารภาพ
เจ้าทุกข์ผัวเมียพะยานโจทก์เบิกความว่า ผู้ร้ายที่ตนจำได้นั้นไม่มีในศาล โจทก์นำเจ้าพนักงานผู้สอบสวนมาสืบว่า เจ้าทุกข์เคยชี้จำเลยทั้ง ๓ นี้ว่าเป็นผู้ร้าย ดังใบบันทึกที่ส่งศาล และโจทก์นำพะยาน ๓ คนซึ่งเป็นพวกไปปล้นมาเบิกความว่าจำเลยได้ทำการปล้นทรัพย์ ฝ่านจำเลยกลับปฏิเสธและอ้างตนเองเบิกความว่าจำเลยไม่ได้ปล้น พะยานโจทก์ทั้ง ๓ คนกับพวกเป็นผู้ปล้น จำเลยเป็นแต่ยืนดู
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยตาม ม.๓๐๑
ศาลฎีกาตัดสินว่านัยแห่งการวินิจฉัยคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๗๒ นั้น ย่อมหนักเบากว่าคดีธรรมดาคดีนี้ลงโทษจำเลยได้ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์