คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3317/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีก่อนจำเลยที่ 2 เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่โจทก์ในคดีนี้ออกจากที่พิพาท จำเลย (โจทก์ในคดีนี้) ให้การต่อสู้คดีโดยยกเหตุผลอย่างเดียวกับที่ฟ้องคดีนี้ ในที่สุดคู่ความได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยโจทก์คดีนี้ยอมซื้อที่พิพาทคืนจากจำเลยที่ 2 ในคดีดังกล่าวจำเลยที่ 1 ไม่ได้เข้ามาเป็นคู่ความด้วย ฟ้องของโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 1 จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กู้เงินจำเลยที่ 1 จำนวน 10,000 บาทตกลงดอกเบี้ยเป็นข้าวเปลือกร้อยละ 3 ต่อปี เพื่อเป็นการประกันเงินกู้ดังกล่าว โจทก์เอาที่ดินของโจทก์ตาม น.ส.3 ก. เลขที่ 4010ซึ่งมีราคา 80,000 บาท ขายฝากไว้ต่อจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปีเป็นการแสดงเจตนาลวง จำเลยที่ 2 ได้ร่วมรู้ว่าที่ดินดังกล่าวยังเป็นของโจทก์ ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้ขายที่ดินดังกล่าวให้จำเลยที่ 2การซื้อที่ดินระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 เป็นโมฆะ ขอให้พิพากษาว่า สัญญาขายฝากที่ดินระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 และสัญญาซื้อขายที่ดินระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 เป็นโมฆะให้จำเลยที่ 2 โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวแก่โจทก์ ถ้าไม่ยอมโอนให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแสดงเจตนาแทน ถ้าไม่สามารถโอนได้ให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 80,000 บาท ให้แก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ให้การว่า โจทก์ไม่เคยกู้เงินจากจำเลยที่ 1การทำสัญญาขายฝากไม่ได้เกิดจากเจตนาลวง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอน
จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 2 เคยฟ้องขับไล่โจทก์ออกจากที่พิพาท โจทก์ยอมซื้อที่พิพาทจากจำเลยที่ 2 ในราคา 55,125 บาทภายในวันที่ 28 สิงหาคม 2531 ศาลได้มีคำพิพากษาตามยอมไปแล้วโจทก์กลับมาฟ้องจำเลยที่ 2 อีกไม่ได้ เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ
ศาลชั้นต้นให้งดชี้สองสถานและงดสืบพยานแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 1 ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดีนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า ฟ้องของโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 1 เป็นฟ้องซ้ำนั้น เห็นว่า กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 บัญญัติว่า คดีที่ได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดแล้ว ห้ามมิให้คู่ความเดียวกันรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน เว้นแต่ข้อเท็จจริงที่คู่ความรับกันฟังเป็นยุติว่า ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 124/2528 ของศาลชั้นต้น จำเลยที่ 2 เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่โจทก์ในคดีนี้ออกจากที่พิพาท จำเลย (โจทก์ในคดีนี้) ให้การต่อสู้คดีโดยยกเหตุผลอย่างเดียวกับที่ฟ้องคดีนี้ ในที่สุด คู่ความได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยโจทก์คดีนี้ยอมซื้อที่พิพาทคืนจากจำเลยที่ 2 ในคดีดังกล่าวจำเลยที่ 1 ไม่ได้เข้ามาเป็นคู่ความด้วยแต่อย่างใด ฟ้องของโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 1จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
พิพากษายืน

Share