คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3310/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นตัวแทนของจำเลยซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฟ้องเรียกเอาเงินค่าหุ้นและค่าบำเหน็จที่โจทก์ได้ออกเงินทดรองแทนจำเลยไป เป็นกรณีตัวแทนเรียกเอาเงินที่ได้ทดรองจ่ายไปชดใช้จากตัวการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 816 เมื่อไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้เป็นอย่างอื่น ต้องใช้อายุความ 10 ปีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ทำสัญญาให้โจทก์เป็นตัวแทนสั่งซื้อและขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามคำสั่งจำเลยและยอมให้โจทก์หักเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินที่จำเลยมอบให้โจทก์ไว้เป็นประกันชำระหนี้ได้ การซื้อขายหลักทรัพย์ทำในรูปบัญชีเดินสะพัดโจทก์ซื้อหุ้นให้จำเลยตามคำสั่งของจำเลย และได้ทดรองจ่ายเงินแทนจำเลยไป จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์บางส่วนแล้ว คงเป็นหนี้โจทก์รวมทั้งดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้องเป็นเงินจำนวน 157,613.02 บาท โจทก์ทวงถามแล้วแต่จำเลยไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน157,613.02 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 17 ต่อปี ในต้นเงินจำนวน 99,361.26 บาท นับถัดจากวันฟ้องถึงวันที่ชำระเสร็จ
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยไม่เคยสั่งโจทก์ซื้อหุ้นตามฟ้องแต่อย่างใด โจทก์มิได้ซื้อหุ้นให้แก่จำเลย ฟ้องโจทก์ขาดอายุความเพราะโจทก์เป็นพ่อค้าประกอบกิจการซื้อขายหลักทรัพย์ได้ออกเงินทดรองซื้อหุ้นแทนจำเลยแล้วมิได้ใช้สิทธิเรียกร้องในกำหนด 2 ปีขอให้ยกฟ้องและให้โจทก์ใช้เงินจำนวน 82,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 12 ต่อปีในต้นเงินจำนวน 50,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องแย้งถึงวันที่ชำระเสร็จ
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินเพราะจำเลยได้มอบไว้แก่โจทก์เพื่อประกันการชำระหนี้การซื้อขายหลักทรัพย์ หากจำเลยเป็นหนี้โจทก์ จำเลยตกลงให้โจทก์ยึดเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวชำระหนี้ โจทก์ทดรองจ่ายเงินแทนจำเลยในการซื้อขายหุ้นตามคำสั่งจำเลยแล้วจำเลยไม่ชำระเงิน โจทก์จึงนำเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินหักชำระหนี้แล้วจำเลยยังค้างชำระอีกเป็นจำนวนมาก โจทก์ไม่จำต้องชำระเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินให้แก่จำเลย ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ระหว่างพิจารณา จำเลยถอนฟ้องแย้ง ศาลชั้นต้นอนุญาตจำหน่ายคดีฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 157,613.02 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 17 ต่อปี ในต้นเงิน 99,361.26 บาทนัดถัดจากวันฟ้องถึงวันชำระเสร็จ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยฎีกาข้อสามว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1)เห็นว่าคดีนี้โจทก์ซึ่งเป็นตัวแทนของจำเลยซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฟ้องเรียกเอาเงินค่าหุ้นและค่าบำเหน็จที่โจทก์ได้ออกเงินทดรองแทนจำเลยไป จึงเป็นกรณีที่ตัวแทนเรียกเอาเงินที่ได้ออกทดรองจ่ายไปชดใช้จากตัวการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 816 ซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้เป็นอย่างอื่นต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30(มาตรา 164 เดิม) ที่จำเลยฎีกาอ้างว่าฟ้องโจทก์มีอายุความ 2 ปีตามมาตรา 165(1) จึงไม่ถูกต้องฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นเดียวกัน
พิพากษายืน

Share