คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 331/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2506 เวลากลางวันจำเลยโดยทุจริต ขายโรงเรือนไม่มีเลขหมาย ตำบล ฯลฯ ให้โจทก์ราคา4,000 บาท โดยหลอกลวงแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่าจะไปจดทะเบียนการซื้อขายบ้านในภายหลัง โจทก์หลงเชื่อจึงยอมทำสัญญาจะซื้อขายและมอบเงิน 4,000 บาท ให้จำเลยไปเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2511ต่อมาจำเลยได้มอบโรงเรือนตามสัญญาจะซื้อขายให้โจทก์ครอบครองแล้วแต่กลับนำโรงเรือนนั้นไปทำสัญญาซื้อขายให้ ส. ซ้ำอีก เหตุเกิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2506 เวลากลางวัน จำเลยโดยเจตนาทุจริต ได้ขายโรงเรือนไม่มีเลขหมาย ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมืองระยองจังหวัดระยอง 1 หลัง ให้โจทก์ในราคา 4,000 บาทโดยหลอกลวงแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่าจะไปจดทะเบียนการซื้อขายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในภายหลัง โจทก์หลงเชื่อจึงยอมทำสัญญาจะซื้อขายอันเป็นเอกสารสิทธิและมอบเงิน 4,000 บาทให้จำเลยไป เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2511 จำเลยได้นำโรงเรือนซึ่งจำเลยทำสัญญาจะซื้อขายให้โจทก์และรับเงินค่าซื้อขายไปแล้ว และมอบเรือนให้โจทก์ครอบครองแล้ว ไปทำสัญญาซื้อขายให้นายสวง สุขศิริซ้ำอีก เหตุเกิดที่ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยองขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341

ศาลชั้นต้นสั่งคำฟ้องว่า ตามข้อเท็จจริงที่บรรยายมาในฟ้องไม่มีมูลเป็นความผิดทางอาญา ยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 161

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์กล่าวถึงการกระทำของจำเลยที่ทำสัญญาจะซื้อขายเรือนกับโจทก์นั้น โจทก์เองก็ยอมรับเป็นความจริง มิใช่เกิดจากการที่จำเลยแสดงข้อความอันเป็นเท็จหลอกลวงโจทก์ กล่าวคือ จำเลยทำสัญญาจะซื้อขายโรงเรือนของจำเลยให้โจทก์ในราคา 4,000 บาท และจำเลยรับเงินไปจากโจทก์ 4,000 บาท อีกทั้งจำเลยมอบโรงเรือนดังกล่าวให้โจทก์ครอบครองไปแล้วตามสัญญาจะซื้อขายแม้โจทก์จะบรรยายฟ้องว่าจำเลยหลอกลวงแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่าจะไปจดทะเบียนการซื้อขายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในภายหลัง โจทก์หลงเชื่อจึงยอมทำสัญญาจะซื้อขายและมอบเงิน 4,000 บาท ให้จำเลยไปก็ดี หาใช่ข้อความอันเป็นเท็จไม่ เพราะการที่โจทก์เข้าทำสัญญาจะซื้อขายเรือนกับจำเลยเป็นความจริง โจทก์ได้ครอบครองเรือนแล้ว การจะไปจดทะเบียนการซื้อขายในภายหลังเป็นข้อตกลงตามสัญญาจะซื้อขายที่โจทก์จำเลยตกลงทำกันไว้ แม้ต่อมาจำเลยจะไปทำสัญญาซื้อขายเรือนหลังนี้ให้นายสวง สุขศิริ อีกก็เป็นเรื่องผิดสัญญา โจทก์ชอบที่จะว่ากล่าวกับจำเลยในทางแพ่ง คดีไม่มีมูลความผิดทางอาญาฐานฉ้อโกง

พิพากษายืน

Share