แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 มีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ตั้งจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 ตั้งจำเลยที่ 5 เป็นตัวแทนในประเทศไทยเพื่อดูแลกิจการและผลประโยชน์ของจำเลย โดยให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 3 ที่ 5 ฐานละเมิดต่อโจทก์ ดังนี้ เมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แม้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ตั้งตัวแทนดังกล่าวก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย เพราะจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ไม่มีสำนักงานสาขาอยู่ในประเทศไทยหรือเลือกเอาประเทศไทยเป็นภูมิลำเนาในส่วนกิจการ อันทำในประเทศไทยด้วย โจทก์จึงไม่มี อำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 4 ต่อศาลในประเทศไทย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นผู้ควบคุมเรือบลูเพิร์ลในฐานะลูกจ้างของจำเลยที่ ๒ เจ้าของเรือ จำเลยที่ ๓ เป็นตัวแทนกิจการเดินเรือของจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ในประเทศไทย จำเลยที่ ๔ รับประกันภัยเรือบลูเพิร์ล จำเลยที่ ๕ เป็นตัวแทนของบริษัทประกันภัยจำเลยที่ ๔ จำเลยที่ ๑ ควบคุมเรือออกจากทุ่นจอดด้วยความประมาทเลินเล่อ เรือจนชนศาลาบำเพ็ญกุศลของโจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยทั้งหกร่วมกันใช้ค่าเสียหาย
ศาลชั้นต้นพิจารณาฟ้องของโจทก์แล้ววินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๔ มิได้มีถิ่นที่อยู่หรือสำนักงานแห่งใหญ่หรือสาขาสำนักงานในประเทศไทย ไม่ถือว่ามีภูมิลำเนาในประเทศไทย ทั้งไม่ปรากฏว่าขณะนี้จำเลยอยู่ในประเทศไทย โจทก์จะฟ้องจำเลยดังกล่าวเป็นคดีต่อศาลในประเทศไทยไม่ได้ ไม่รับฟ้องสำหรับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๔
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นเกี่ยวกับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๔
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาขอให้รับคำฟ้องจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๔
ปัญหาว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๔ หรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าคดีได้ความว่า จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๔ มีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศ จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ตั้งจำเลยที่ ๓ และจำเลยที่ ๔ ตั้งจำเลยที่ ๕ เป็นตัวแทนในประเทศไทยเพื่อดูแลกิจการและผลประโยชน์ของจำเลยดังกล่าวในประเทศไทย โดยให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๔ ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๓ ที่ ๕ ฐานละเมิดต่อโจทก์ ดังนี้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๔ ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๔ ต่อศาลในประเทศไทย แม้จะปรากฏว่าจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ตั้งให้จำเลยที่ ๓ และจำเลยที่ ๔ ตั้งให้จำเลยที่ ๕ เป็นตัวแทนดังกล่าว ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๔ มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทยเพราะจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๔ ไม่มีสำนักงานสาขาอยู่ในประเทศไทย หรือเลือกเอาประเทศไทยเป็นภูมิลำเนาในส่วนกิจการอันทำในประเทศไทยด้วย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๔ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๘๐๗/๒๕๑๗ คดีระหว่างบริษัทไทยลำเลียง จำกัด โจทก์ บริษัทแปซิฟิคฟาร์อิสท์ ไลน์อิงค์ ฯ กับพวก จำเลย ที่ศาลล่างทั้งสองไม่รับคำฟ้องสำหรับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๔ ชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน