คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3307/2535

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองโฆษณาหลอกลวงผู้ที่มาเข้าโบสถ์ว่าจำเลยทั้งสองเป็นหุ้นส่วนในบริษัท ท. สามารถส่งคนงานไปทำงานต่างประเทศได้แต่บุคคลเหล่านั้นต่างเป็นคนหมู่บ้านหรือท้องถิ่นเดียวกันนับถือศาสนาคริสต์ ด้วยกัน ปฏิบัติศาสนกิจที่โบสถ์เดียวกันจำเลยทั้งสองเป็นครูย่อมเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่บ้าน การโฆษณาต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลซึ่งรู้จักจำเลยเป็นอย่างดี ย่อมมิใช่โฆษณาต่อบุคคลทั่วไปโดยไม่จำกัดว่าเป็นบุคคลใด จึงยังไม่เป็นการโฆษณาต่อประชาชนอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2527 จำเลยทั้งสองโดยเจตนาทุจริต ได้ประกาศโฆษณาหลอกลวงประชาชนและโจทก์ทั้งสามโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่า จำเลยทั้งสองมีหุ้นส่วนในบริษัทส่งคนไปทำงานที่ต่างประเทศ สามารถส่งคนไปทำงานที่ต่างประเทศได้เป็นจำนวนมาก ทำให้โจทก์ทั้งสามและประชาชนหลงเชื่อโจทก์ทั้งสามได้สมัครงานกับจำเลยทั้งสองและมอบเงินให้จำเลยทั้งสองไปเป็นจำนวนมาก ความจริงจำเลยทั้งสองไม่ได้มีหุ้นส่วนในบริษัทส่งคนไปทำงานต่างประเทศและไม่มีงานให้โจทก์ทั้งสามทำที่ต่างประเทศ โจทก์ทั้งสามเพิ่งทราบการกระทำผิดของจำเลยทั้งสองเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2529 ซึ่งเป็นวันที่โจทก์ทั้งสามไปขอเงินคืนจากจำเลยทั้งสอง โจทก์ทั้งสามร้องทุกข์เมื่อวันที่ 18พฤศจิกายน 2529 ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91, 341, 343
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์ทั้งสามอุทธรณ์ โดยผู้พิพากษาซึ่งทำความเห็นแย้งอนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้ แต่ผู้ลงชื่อในช่องผู้อุทธรณ์มิได้เป็นทนายความของโจทก์ที่ 3ด้วย จึงเท่ากับว่าโจทก์ที่ 3 มิได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1พิพากษากลับว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 วรรคแรก ลงโทษจำคุกคนละ 2 ปี จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาข้อแรกว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 หรือไม่โจทก์ทั้งสามเบิกความเป็นอย่างเดียวกันว่า จำเลยทั้งสองได้โฆษณาหลอกลวงประชาชนที่บ้านหนองคู ตำบลเวียง อำเภอเสนางคนิคมจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ หยุดงานวันอาทิตย์และเข้าโบสถ์ ก่อนเข้าโบสถ์จะนั่งจับกลุ่มคุยกันกลุ่มละ 5 คน ถึง 10 คน จำเลยทั้งสองโฆษณาต่อประชาชนที่มาเข้าโบสถ์ดังกล่าวว่าจำเลยทั้งสองเป็นหุ้นส่วนในบริษัทเทเลเทรด จำกัดซึ่งสามารถส่งคนงานไปทำงานต่างประเทศได้ เห็นว่า ประชาชนเหล่านั้นต่างเป็นคนหมู่บ้านหรือท้องถิ่นเดียวกัน นับถือศาสนาคริสต์ ด้วยกัน ปฏิบัติศาสนกิจที่โบสถ์เดียวกัน จำเลยทั้งสองเป็นครูย่อมเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่บ้านดังที่พยานโจทก์ทุกคนต่างรู้จักจำเลยทั้งสอง โดยเฉพาะนายแจ้ง วงศ์อนันต์ พยานโจทก์ซึ่งเคยเป็นกำนันตำบลนาเวียงมาก่อนเบิกความว่า ตามปกติในหมู่บ้านมักจะให้ครูบาอาจารย์เป็นผู้นำในการทำกิจกรรมต่าง ๆร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน จำเลยทั้งสองทำกิจกรรมช่วยเหลือลูกบ้านมาตลอด เช่น งานแต่งงาน งานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ เกือบจะเป็นหัวหน้างานในการดำเนินงาน จำเลยทั้งสองสนิทสนมรักใคร่กลมเกลียวกับชาวบ้าน ไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่น เป็นคนสุภาพเรียบร้อยเอาใจใส่ลูกศิษย์ลูกหาและขยันหมั่นเพียรในการทำงาน จึงฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองรู้จักหรือเป็นที่รู้จักของบุคคลที่มาชุมนุมจับกลุ่มกันก่อนเข้าโบสถ์ดีทุกคน จำเลยทั้งสองโฆษณาต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลซึ่งรู้จักจำเลยเป็นอย่างดี หาใช่โฆษณาต่อบุคคลทั่วไปโดย ไม่จำกัดว่าเป็นบุคคลใดไม่ การโฆษณาของจำเลยทั้งสองยังไม่เป็นการโฆษณาต่อประชาชนอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ส่วนความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้นั้นปรากฏจากคำเบิกความของร้อยตำรวจตรีสำราญ พิมพ์สุตพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเสนางคนิคม พยานโจทก์ว่าเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2529 นายกุล สัญญาลักษณ์ ไปปรึกษาพยานที่บ้านพักว่าถูกจำเลยที่ 1 โกงเงิน พยานได้หมายเรียก จำเลยที่ 1 มาสอบถาม จำเลยที่ 1 ปฏิเสธ พยานจึงยังไม่ได้ทำอะไรและยังไม่ได้รับแจ้งความ ซึ่งสอดคล้องกับหนังสือของสถานีตำรวจภูธรอำเภอเสนางคนิคม ลงวันที่ 28 กันยายน 2531 ที่แจ้งต่อศาลชั้นต้นว่าไม่มีเอกสารบันทึกประจำวันหรือสำเนาเอกสารเกี่ยวกับเรื่องที่นายกุลแจ้งความ จึงรับฟังไม่ได้ว่าโจทก์ทั้งสามมอบอำนาจให้นายกุลร้องทุกข์ สำหรับข้อหานี้แล้วเมื่อโจทก์ทั้งสามรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2529 แต่มาฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่19 พฤศจิกายน 2530 คดีโจทก์จึงขาดอายุความ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ทั้งสามย่อมระงับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(6) ไม่จำต้องวินิจฉัยการกระทำความผิดข้อหานี้ต่อไป ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

Share