แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ซื้อขายที่สวนกันด้วยปากเปล่า ผู้ซื้อซื้อแล้วก็เข้าครอบครองถึง 6 ปี แม้ที่สวนนั้นจะไม่มีหนังสือสำคัญ ผู้ซื้อก็ยังไม่ได้กรรมสิทธิ เพราะครอบครองยังไม่ครบ 10 ปี ตามมาตรา 1382 ผู้ขายฟ้องเรียกคืนได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ โจทก์ถูกทางราชการจำกัดเขตต์เพราะเป็นคนต่างด้าว จึงเอาเงินของจำเลยไป ๒๐ บาท แล้วมอบที่สวนพิพาทให้จำเลยครอบครอง โดยตกลงกันปากเปล่าว่า ถ้าโจทก์มีโอกาศกลับมาอยู่ในเขตต์จังหวัดปราจิณบุรีอีกเมื่อใด จำเลยยอมคืนสวนให้ เมื่อโจทก์ยอมชำระเงิน ๒๐ บาทให้ ต่อมา พ.ศ. ๒๔๘๘ โจทก์นำเงิน ๒๐ บาทไปคืนจำเลย ๆ ไม่ยอมคืนสวน จึงขอให้ศาลว่าสวนพิพาทเป็นกรรมสิทธิของโจทก์ และให้จำเลยรับเงิน ๒๐ บาท
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ เห็นว่า เป็นการซื้อขายขาดจึงเป็นโมฆะ ใช้ไม่ได้ พิพากษากลับให้จำเลยรับเงิน ๒๐ บาทและคืนสวนให้โจทก์
จำเลยฎีกาคัดค้านในข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อปรากฏว่าที่สวนรายนี้เป็นที่ดินซึ่งทำประโยชน์ โจทก์ได้ครอบครองหวงแหนถืออำนาจเป็นเจ้าของกรรมสิทธิมาแล้ว มาขายให้จำเลยโดยมิได้ทำหนังสือสัญญาต่อเจ้าพนักงาน จำเลยครอบครองมาเพียง ๖ ปี ยังหาครบ ๑๐ ปี ตามมาตรา ๑๓๘๒ ไม่โจทก์ยังไม่ขาดกรรมสิทธิ จึงพิพากษายืน.